ผ่านมาเกินครึ่งทางของไทยลีก 2020 ปรากฏว่า ‘เขี้ยวสมุทร’ ภายใต้การนำทัพของ ‘อิชิอิ’ ได้รับการชื่นชมจากทั่วทุกสารทิศ กับสไตล์การเล่นแขนงใหม่ๆ ที่ใครๆ ก็อยากลอกเลียนแบบ เกมรุกดุดัน การเข้าทำสายฟ้าแลบ เพรสซิ่งฟุตบอล การบิลด์อัพเกม ซึ่งถือว่านี่คือ แนวทางฟุตบอลสมัยใหม่ ที่นิยมใช้ตอนนี้ทั้งโลก
“ผมมาที่ไทย โดยทิ้งเรื่องความสำเร็จไว้ที่ญี่ปุ่นทั้งหมด ผมอยากหาความท้าทายสำหรับตัวเอง เรื่องการจบสกอร์ มันเป็นสิ่งแรกที่ผมมองว่า สมุทรปราการยังขาดเรื่องนี้ไป รูปเกมเข้าทำดีทุกอย่าง อีกทั้งเรื่องของการฝึกซ้อมเราต้องเพิ่มความเข้มข้น เพื่อประสิทธิภาพในการลงทำการแข่งขัน”
นั่นคือบทสัมภาษณ์เปิดใจ ในช่วงเบรคโควิด ช่วงเดือนเมษายนปีที่แล้ว ซึ่งเวลานั้น การออกสตาร์ท 4 เกมแรก ในซีซั่น 2020 ของสมุทรปราการ คือ เก็บได้แค่ 1 แต้ม ซึ่งใครๆ ก็มองว่า กุนซือวัย 54 ปี อาจจะเอาชื่อมาทิ้ง แต่ปรากฏว่า หลังจากกลับมาจากเบรคโควิด 4 เดือน ลูกทีมของอิชิอิ เริ่มมีผลงานขยับขึ้นมาเรื่อยๆ ค่อยๆ โกยแต้ม จากโซนท้าย ขยับมาเกาะกลุ่มท็อป 5 โดยทุกอย่างมาลงตัว และ พีคสุดในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ถึง ธันวาคม ก่อนขึ้นปีใหม่ ที่ไล่ปราบบุรีรัมย์ถึงบ้าน 3-1 ถล่มชลบุรี 4-1 และที่ถูกพูดถึงมากสุด น่าจะเป็นการไล่ยำท่าเรือยับเยิน 6-3
แม้ว่าเจอสถานการณ์โควิดระบาดอีกรอบ ในช่วงเดือนมกราคม ส่งผลกระทบต่อพวกเขา ทำให้ฟอร์มสะดุด และแนวรุกปืนฝืดไปเล็กน้อย หลังจากกลับมาช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แต่เมื่อกลับมาเครื่องร้อนอีกครั้ง ด้วยเกมรุกที่ดุดัน ยิงไม่เลี้ยง ทำให้ ทีมไหนที่เจอก็ต้องหวาดผวา โดยเหยื่อรายล่าสุด ที่โดน บดขยี้ ก็คือเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ก่อนหน้านี้ อิชิอิเจอกับกิเลนผยอง ทั้งในลีกและบอลถ้วยช้างเอฟเอ คัพ ยังไม่เคยเอาชนะ และยิงประตูได้เลย ซึ่งเกมนี้ แม้ว่าจะโดนนำไปก่อน 0-2 แต่ก็สามารถยิงแซง 4 ลูกรวด พลิกชนะไป 4-2 แน่นอนว่า ชื่อของมาซาทาดะ อิชิอิ ได้รับการยอมรับว่า นี่คือของจริง
“ยอมรับว่าเขาเป็นโค้ชที่เก่งมากๆ ครับ แม้ว่าทีมผลงานจะดีบ้าง ไม่ดีบ้าง เขาพยายามทำงานหนักตลอด ให้ลูกทีมเชื่อมั่น ซึ่งพอพวกเราปรับตัวเข้ากับแนวทางได้ ส่งผลให้ ทีมก็ดีขึ้นตามลำดับ อีกทั้งเรายังพัฒนาไปข้างหน้าแบบไม่หยุด” เจริญศักดิ์ วงกรณ์ ปีกตัวรุกที่แจ้งเกิดเต็มตัว ในยุคอิชิอิ กล่าวยอมรับในฝีมือของกุนซือชาวญี่ปุ่น
สมุทรปราการ ได้รับการแก้ไขข้อบกพร่อง จากที่อิชิอิบอกว่า มีจุดอ่อนในเรื่องของการจบสกอร์ มาถึงวันนี้ พวกเขากลายเป็นทีมที่ยืนหนึ่ง ยิงประตูเยอะที่สุดในไทยลีกไปแล้ว รวมถึงกองหน้าตัวเก่ง อย่าง ‘บาร์รอส ทาร์เดลี่’ ที่กดแฮตทริกไปแล้ว 3 หน ก็ผงาดรั้งดาวซัลโวของลีก ในเวลานี้ อีกทั้งฟอร์มของทีมกำลังกลับมาเข้ารูปเข้ารอย ทำให้ยังมีโอกาสสำหรับการไล่ล่าตั๋วเอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งกำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล
“ผมมองเกมต่อเกม ไม่ได้มองไกลหรือตั้งเป้าหมายไกลเกินไป เพื่อลดแรงกดดันของนักเตะ ซึ่งเรามีเป้าหมายร่วมกัน ก็ถือว่ายังมีโอกาสอยู่กับโควต้าถ้วยเอเชีย ซึ่งอย่างไรแล้วเราต้องมุ่งมั่นทำภารกิจต่อไป” อิชิอิ เผยถึงเป้าหมาย
This website uses cookies.