เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้านายไชย์พล วิภา หรือลุงพล เดินทางมามอบตัวที่ ตร.ภายหลังศาลจังหวัดมุกดาหารออกหมายจับ ฐานความผิด พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตายและกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป ในคดีการตายของน้องชมพู่ ว่า คดีที่เกิดขึ้นทำตามพยานหลักฐาน เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานก็ขออนุมัติหมายจับข้อหาเท่าที่พยานหลักฐานไปถึง หลังจากนี้ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม พยานหลักฐานคดีนี้มีการพูดกันเยอะมากในรายละเอียดแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เเต่ถ้าไม่มีพยานหลักฐานก็ไม่สามารถจะตั้งข้อหาใครจนศาลออกหมายจับ

ส่วนที่นายไชย์พลพยายามจะมามอบตัวกับตนจะทำอะไรก็ทำ เมื่อเจอตัวแล้วก็ต้องจับ ส่วนการจะให้ประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนที่จะพิจารณาขั้นตอนจากนี้ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายมีเวลา 48 ชั่วโมง หลังจากนั้นถ้าจำเป็นต้องสอบสวนต่อก็จะต้องยื่นฝากขังต่อศาลเเต่ถ้าจะยื่นขอประกันตัวก็ยื่นมาพนักงานสอบสวนจะพิจารณา เจ้าหน้าที่จะทำให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด หลังจากนี้ก็จะพาขึ้นเครื่องบินไปที่ สภ.กกตูม เพื่อสอบสวน

ส่วนทนายความบอกว่ามั่นใจในคดีก็เป็นเรื่องของเขา เจ้าหน้าที่มั่นใจในการทำงาน คนอื่นจะคิดยังไงก็เรื่องของเขา ตำรวจทำไปตามพยานหลักฐานคดีนี้ตอนนี้ออกหมายจับได้ 1 คน ถ้ามีพยานหลักฐานมากกว่านี้ก็ดำเนินการไปตามพยานหลักฐานที่พบ ส่วนเรื่องการหาพยานหลักฐานทางตำรวจใช้ทั้งวิทยาศาสตร์เเละนิติวิทยาศาสตร์ และศาสตร์ใหม่ๆ ทุกด้านที่มีนำมาวิเคราะห์ ส่วนที่กระแสข่าวบอกว่าจับผู้ต้องหาช่วงนี้เพื่อกลบข่าวอภิปรายงบในสภาต้องไปถามคนพูดเองว่าทำไมคิดเเบบนั้น

ตำรวจทำงานมาตลอดคดีนี้เป็นคดีฆาตกรรมมีการสอบสวนรายละเอียดที่ไม่สมควรจะออกมาพูดบ้างก็คาดการณ์การสอบสวนถูกบ้างผิดบ้างมาเป็นระยะเวลากว่า 1 ปี ก็เหมือนคดีอื่นๆ ปิดได้บ้างไม่ได้บ้างเเต่ทำได้ก็ดีใจถ้าเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลโลก ตอนนี้ก็เข้ารอบสุดท้ายต้องสู้กันอีกเเต่หากไม่มีการตัดสินผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์

เมื่อถามว่า อยากฝากไปยังครอบครัวน้องชมพู่หรือไม่เชื่อว่าเขารอฟังอยู่ พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวว่า ตำรวจเคยรับปากไว้ว่าจะทำให้ดีที่สุดก็ทำตามสัญญา แต่ว่ามันยังไม่จบ คดีนี้เป็นคดีฆาตกรรมทั่วไปแต่ที่มีประชาชนติดตามเสพติดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับอาจจะเพราะว่าภูมิคุ้มกันเรื่องโซเชียลไม่พอ ขอให้ใช้วิจารณญาณถ้าหยุดติดตามคดีนี้ประมาณ 2 สัปดาห์สุขภาพจิตจะดีขึ้น

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่