Football Sponsored

คนเคยร่วมงานด้วยชูเจอร์ราร์ดขยันเหมือน1ตำนานกุนซือ

Football Sponsored
Football Sponsored

อลิสแคร์ แม็คคาว ที่ปรึกษาด้านศักยภาพในการเล่นกีฬาและโค้ชด้านวิธีคิดซึ่งเคยร่วมงานกับ เรนเจอร์ส มาก่อนนั้น กล่าวชม สตีเว่น เจอร์ราร์ด ว่าขยันสุดๆ เพราะอยู่ทำงานในโรงยิมนานมาก โดยบอกว่ามันเหมือนกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่มีผิด พร้อมชม เจอร์ราร์ด ด้วยว่ามีความเป็นผู้นำสูง

    อลิสแคร์ แม็คคาว ที่ปรึกษาด้านศักยภาพในการเล่นกีฬาและโค้ชด้านวิธีคิด กล่าวยกย่อง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ผู้จัดการทีม เรนเจอร์ส ว่าเป็นคนที่ขยันในการทำทีมเหมือนกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

    เจอร์ราร์ด เข้ามาคุม เรนเจอร์ส เมื่อช่วงปี 2018 และเขาก็ค่อยๆ ทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่ซีซั่นนี้จะพาทีมนำโด่งเป็นจ่าฝูงของลีกด้วยผลงาน 82 คะแนนจากการลงเล่น 30 นัด โดยทีมของเขายังไม่แพ้ใครในลีกเลยเช่นกัน แบ่งเป็นชนะ 26 เกมกับเสมอ 4 หน

    แม็คคาว ซึ่งเคยร่วมงานกับ เรนเจอร์ส เมื่อปี 2020 เผยว่า “มีวันหนึ่งที่ผมออกจากสนามซ้อมตอนราว 1 ทุ่ม ตอนที่ผมเดินผ่านโรงยิมน่ะมันมีแค่คนเดียวที่ทำงานอยู่ในนั้น และคนที่ว่าก็คือ สตีเว่น เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ยังอยู่ในตึก เขาเข้าข่ายคนแรกที่มาถึงโรงยิมและเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากยิม มันอาจจะฟังดูเป็นประโยคที่ซ้ำซากนิดหน่อยน่ะนะ เรารู้ดีว่า อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยมีนิสัยแบบนั้น ซึ่ง เจอร์ราร์ด ก็มีอุปนิสัยแบบเดียวกัน”

    แม็คคาว กล่าวชม เจอร์ราร์ด ด้วยว่ามีความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมสุดๆ “ทักษะความเป็นผู้นำของเขามันยอดเยี่ยมมากๆ ที่จริงคุณจะเห็นถึงเรื่องนั้นตั้งแต่ตอนที่เขาอยู่กับอะคาเดมี่ของ ลิเวอร์พูล แล้ว เขาเป็นผู้นำมาตั้งแต่เกิด มันไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องความเป็นผู้นำของเขามากไปกว่านี้เลย คนเป็นผู้นำน่ะมีหลายประเภท บางคนเป็นพวกที่แสดงความเป็นผู้นำด้วยการพูด ส่วนบางคนไม่ใช่แบบนั้น ซึ่ง สตีเว่น เข้าข่ายหลัง เขาเป็นผู้นำด้วยการเป็นแบบอย่างผ่านทางการกระทำ”

    “ผมจำได้เลยว่ามีวันหนึ่งที่ผมอยู่ที่สนามซ้อมจนได้เห็นว่าเขาปฏิบัติกับลูกทีมดีมากๆ ทั้งตอนอยู่ในโรงอาหาร, ตรงบันได และตอนอยู่ในสนาม เขาปลุกใจลูกทีมได้ดี คุณปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าทักษะความเป็นผู้นำของเขาน่ะมันเข้าขั้นระดับโลก”

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.