Football Sponsored

ทดสอบแข้งครบทีม!ช้างศึกอุ่นอุซเบเพิ่มก่อนลุยคัดบอลโลก – Goal.com

Football Sponsored
Football Sponsored

ช้างศึก ได้แมตซ์อุ่นเครื่องเพิ่มอีก 1 นัดพบกับ อุซเบกิสถาน ก่อนลุยคัดบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ประสานงานกับสมาคมฟุตบอลอุซเบกิสถาน ในการแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องแบบไม่เป็นทางการ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับลงเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในระหว่างวันที่ 3-15 มิถุนายน 2564

โดยเกมดังกล่าวจะทำการแข่งขันแบบเทรนนิ่งแมตช์ ใช้เวลา 90 นาที แบ่งเป็น ควอเตอร์ละ 30 นาที จำนวน 3 ควอเตอร์ ทั้งสองทีมสามารถเปลี่ยนตัวนักเตะได้แบบไม่จำกัด และจะไม่เปิดให้แฟนบอลเข้าชมเกมในสนาม

ด้าน อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า “ขอบคุณสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ประสานงานอย่างรวดเร็ว ทำให้ทีมชาติไทยได้มีโอกาสแมตช์อุ่นเครื่องเพิ่มเติมอีก รวมเป็น 3 นัด และเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผมที่จะได้ดูนักเตะและทำการตัดตัวก่อนเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์จริง”

Editor Picks

  • โปรแกรมถ่ายทอดสดฟุตบอล – ดูบอลสดคืนนี้ (พรีเมียร์ลีก, ไทยลีก, ลาลีกา, บุนเดสลีกา, แชมเปี้ยนส์ลีก, ฯลฯ)
  • แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถ่ายช่องไหน? วิธีดูแมนฯ ยูฯ พบบียาร์เรอัล
  • จ้าวลูกหนังผู้ดี! ทำเนียบแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษ (1888-2021)
  • ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก 2020-21

“แมตช์อุ่นเครื่องกับอุซเบกิสถานถือว่าเป็นเกมสำคัญ นัดนี้จะเป็นนัดสุดท้ายก่อนที่เราจะพบกับทีมชาติอินโดนีเซีย น่าจะทำให้ผมมีเวลาตัดสินใจเรื่องการใช้งานนักเตะได้ชัดเจนถี่ถ้วนมากขึ้น”

ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ในการแข่งขันแมตช์ดังกล่าว เพื่อให้นักเตะทีมชาติไทยที่ไม่ได้ลงสัมผัสเกมอุ่นเครื่องกับทีมชาติทาจิกิสถาน ได้มีเกมให้ลงเล่น เพื่อเตรียมสภาพร่างกายสำหรับทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสองอีกด้วย

สำหรับ ทีมชาติไทย อุ่นเครื่องพบกับ ทีมชาติอุซเบกิสถาน ครั้งล่าสุด คือในยุคของ มิโลวาน ราเยวัช ที่บุกไปแพ้ 2-0 เมื่อปี 2017 ก่อนที่จะกลับมาพบกันอีกครั้ง ในเกมอุ่นเครื่องแบบเทรนนิ่งแมตช์ วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม 2564 เวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง) ณ สนาม The Sevens Stadium

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.