Football Sponsored

ชีวิตมีพรุ่งนี้เสมอ!รามอสเปิดใจครั้งแรกหลังไร้ชื่อลุยยูโร – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

เซร์คิโอ รามอส ปราการหลังมากประสบการณ์ เรอัล มาดริด เปิดใจผ่านสื่อสังคมออนไลน์หลังโดนตัดชื่อออกจากทีมชาติสเปน ชุดลุยศึกยูโร 2020 ซัมเมอร์นี้ พร้อมรับสุดผิดหวังที่ไม่ได้ช่วยชาติ แต่ก็ขออวยพรให้เพื่อนๆ ทุกคนโชคดีในศึกครั้งนี้

     เซร์คิโอ รามอส กองหลังกัปตันทีมเรอัล มาดริด ยอมรับตนผิดหวังและเจ็บปวดมากๆ ที่ หลุยส์ เอ็นริเก้ เทรนเนอร์ทีมชาติสเปน ตัดชื่อออกจากทัพ “กระทิงดุ” ชุดลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 ในเดือนมิถุนายนนี้ 

     ปราการหลังจอมเก๋าเป็นผู้เล่นที่ติดทีมชาติมากที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ลูกหนังทวีปยุโรปจำนวน 180 เกมเป็นรองแค่  อาห์เหม็ด ฮัสซัน ดาวเตะชาวอียิปต์ เจ้าของสถิติโลกติดทีมชาติมากที่สุดเพียงแค่ 4 แมตช์เท่านั้น 

     อย่างไรก็ตาม เอ็นริเก้ ตัดสินใจที่จะไม่เรียก รามอส เข้ามาร่วมอยู่ใน 24 แข้งลุยทัวร์นาเมนต์สำคัญนี้ โดย ดาวเตะวัย 35 ปี ซึ่งคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก  1 สมัย และแชมป์ยุโรป 2 สมัย เปิดใจเกี่ยวกับการโดนมองข้ามครั้งนี้

     “หลังจากช่วง 2-3 เดือนที่แสนยากลำบาก และฤดูกาลสุดแปลกมันเป็นอะไรที่แตกต่างกับประสบการณ์ตลอดอาชีพของผม ผมพยายามต่อสู้ และทำงานหนักทุกวันด้วยร่างกาย และวิญญาณ เพื่อที่จะฟิตเต็มร้อยในการเล่นให้ เรอัล มาดริด และทีมชาติ แต่มีหลายอย่างที่มันก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราต้องการ”

     “มันเป็นเรื่องเจ็บปวดที่ไม่ได้ช่วยทีม และไม่ได้เล่นให้สเปน แต่ในกรณีนี้มันก็เป็นเรื่องดีที่ได้พัก ได้ฟื้นฟูร่างกายเต็มที่ และกลับมาปีหน้าเหมือนที่เราเคยทำมาตลอด มันเจ็บปวดที่ไม่ได้เป็นตัวแทนให้กับประเทศของคุณ แต่ผมต้องซื่อสัตย์และจริงใจ”

     “ผมขออวยพรให้เพื่อนๆ ของผมโชคดีที่สุด และผมหวังว่าเราจะได้พบกับเกมยูโรที่ยิ่งใหญ่ ผมจะเป็นแฟนบอลอีกคนที่เชียร์พวกเขาจากที่บ้าน และพร้อมตะโกนเสียงดังสนั่นเพื่อทุกคน #VivaEspaña and #HalaMadrid ตลอดไป!” รามอส ร่ายยาว

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.