Football Sponsored

เปิด“คิงเพาเวอร์ โมเดล”ต้นแบบพลังความสำเร็จฝ่าโควิด-19 ตอกย้ำแบรนด์“ประเทศไทย”ธุรกิจคนไทยยืนหนึ่งในใจทั่วโลก – มติชน

Football Sponsored
Football Sponsored

ทายาทธุรกิจกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ “อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ได้ทุ่มเทนำความสำเร็จสร้างประวัติศาสตร์ให้โลกจดจำแบรนด์ “ประเทศไทย” ภายใต้การนำของ “ธุรกิจคนไทย” อีกครั้ง ท่ามกลางสถานการณ์ยืดเยื้อการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 สามารถนำทีมฟุตบอลสโมสร “เลสเตอร์ ซิตี้” คว้าแชมป์ FA CUP 2021 เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2564 เป็นครั้งแรกในรอบการก่อตั้งสโมสรมายาวนาน 137 ปี ต่อเนื่องจากเมื่อ 15 พฤษภาคม 2559 นำทีมเลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2015/2016 ครั้งแรกในรอบ 132 ปี เป็นภาพจำของคนทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้

นับจากนี้เป็นต้นไป กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จะเพิ่มพลังขับเคลื่อน “ประเทศไทย” ก้าวข้ามวิกฤตโควิด-19 ฟื้นความเชื่อมั่น สาน “เศรษฐกิจชุมชน” แบรนด์สินค้า ต่อยอดสร้างห่วงโซ่ “เศรษฐกิจการตลาดข้ามชาติ” ทำให้ประเทศไทยยืนหนึ่งครองใจคนทั่วโลกพร้อมจะเดินทางกลับมาใช้เงินท่องเที่ยวอีกครั้ง

ความสำเร็จครั้งนี้ “อัยยวัฒน์” ตอกย้ำให้โลกเห็นถึงพลังของ Thailand Smiles With You : ยิ้มให้โลก ให้โลกยิ้ม” เรือธงหลักที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำเสนอพร้อมกับเดินหน้าโครงการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 เป็นต้นมา มุ่งสนับสนุนรัฐบาล “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ปลุกพลังคนไทยทั้งประเทศก้าวข้ามวิกฤตช่วงเกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ไปด้วยกัน  จึงได้ทุ่มเทงบประมาณกว่า 622 ล้านบาท นำคำว่า “Thailand Smiles With You” คาดบนหน้าอกเสื้อชุดแข่งของนักเตะทีมจิ้งจอกสีน้ำเงิน “เลสเตอร์ ซิตี้” ทุกคน รวมถึงทำป้ายโฆษณาดิจิตอลในสนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เมืองเลสเตอร์ อังกฤษ ตลอดฤดูกาลแข่งขัน 2020-2021 ส่งพลัง “ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวประเทศไทย” เต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ชมเกมการแข่งขันนับพันล้านคนทั่วโลกได้เห็นพร้อมกันทุกแมทช์

“อัยยวัฒน์” กล่าวย้ำเสมอว่ามุ่งมั่นทุ่มเทพลัง “สานต่อและต่อยอด” ธุรกิจที่พ่อสอนไว้ (นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และอดีตประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้) ภายใต้แนวคิด “คนไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก”

โดยเฉพาะการเลือกใช้ “พลังกีฬาฟุตบอลระดับโลก” มาสร้างสรรค์ธุรกิจ ดูแลสังคม รักษาสิ่งแวดล้อม พัฒนาเศรษฐกิจ เป็นจังหวะสำคัญที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เดินหน้าต่อยอดธุรกิจลงล็อกพอดีกันกับ “ก้าวใหม่ประเทศไทย” ที่กำลังปรับยุทธศาสตร์ขานรับวิถีใหม่เตรียมตัวให้พร้อมหลังโควิด-19 ต้องปูพรมนำประเทศพัฒนาสู่ “เศรษฐกิจสีเขียว/เศรษฐกิจชีวภาพ : Bio Circular Green Economy -BCG”

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้ร้อยรวม “สินค้าชุมชน” สร้างเศรษฐกิจเริ่มจากฐานรากผ่านพลัง POWER COMMUNITY นำเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านโดยเฉพาะ “ผืนผ้า” อันเกิดจากจิตวิญญาณของสังคมชนบทซึ่งหยิบธรรมชาติสีต้นไม้ เปลือกไม้ ที่อยู่รอบตัวในชีวิตประจำวัน มาทำมัดย้อมดีไซน์เป็นแฟชั่นเครื่องนุ่งห่ม ของใช้ สืบทอดวัฒนธรรมนับร้อยปี ได้รับโอกาสเดินทางไปวางขายอยู่บนโลกยุคใหม่ เชื่อมต่อห่วงโซ่ “เศรษฐกิจการตลาดข้ามชาติ” โดยผลิตเป็น “เสื้อนักเตะทีม เลสเตอร์ ซิตี้” พร้อมของที่ระลึกหลากหลายชนิด บอกเล่าแหล่งที่มาทำให้คนรู้จัก “สถานที่ท่องเที่ยวห่างไกล” ที่อยู่ในเมืองไทย จากนั้นก็ต่อยอดผ่านเรื่องราวที่โลกจดจำแล้วบอกต่อความเป็น : สยามเมืองยิ้ม หรือ เมืองไทยดินแดนแห่งรอยยิ้ม Thailand Smiles”

ขณะเดียวกัน กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ผู้นำร้านค้ารีเทลเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวแถวหน้าของโลก ก็ยังคงทุ่มขับเคลื่อนธุรกิจในเมืองไทยเชิงรุกอย่างเต็มที่ทั้ง 3 กลุ่มหลัก ได้แก่

กลุ่มที่ 1 สินค้าดิวตี้ฟรี ร่วมกับพันธมิตรกว่า 100 แบรนด์เนม พาเหรดสินค้ากว่า 20,000 รายการ ภายใต้แคมเปญ “ไม่มีไฟลต์บินก็ช้อปได้” พร้อมบริการส่งถึงบ้าน Home delivery ผ่านช่องทางออนไลน์เว็บไซต์ www.kingpower.com และ แอพลิเคชั่น คิง เพาเวอร์ กับทางหน้าร้านหรือออนกราวนด์ 5 สาขาหลัก คือ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี มหานคร พัทยา และภูเก็ต

ระหว่างวันนี้ -31 พฤษภาคม 2564 จัดโปรโมชั่นแรง ๆ ระหว่างหยุดทำงานอยู่บ้านสเตย์โฮม (STAY HOME) อย่างมีสไตล์ (STYLE) ลดทุกสัปดาห์ตั้งแต่ 20 % สูงสุดถึง 80 % เพียงคลิกเข้าเว็บไซต์หรือแอพลิเคชั่น เพื่อช้อปเลือกซื้อสินค้าแฟชั่นไอเทมจากแบรนด์ดัง ๆ ที่มีความโดดเด่นแตกต่างจากทั่วไป  โดยมีแคมเปญลดแรง ๆ ทั้ง MAY MEGA BONUS และ MAY SURPRISES ปล่อยหมัดเด็ดเป็นระยะ ๆ สร้างแม่เหล็กดึงดูดใจให้ช้อปสินค้าหมวดเด่น ๆ มีทั้ง อาหารและของที่ระลึก (food& Souvenir) ความงาม (Beauty) แฟชั่น อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ อุปกรณ์ทางเทคโนโลยีหรือ Gadgets กีฬาและการเดินทาง (Sport &Travel) หรือแม้แต่ของใช้ภายในบ้าน (Home &Living)

สำหรับเดือนมิถุนายน 2564 ห้ามพลาด!! ติดตามช้อปมหกรรมสินค้าหลักหมื่นรายการ ที่จะมาพร้อมกับความพิเศษสุด ๆ ต้อนรับกลางปี Mid Year Sale

กลุ่มที่ 2 อาหารและเครื่องดื่ม “ไทย เทสต์ ฮับ : Thai Taste Hub” ศูนย์รวมร้านอาหารสตรีทฟู้ดแถวหน้าของเมืองไทยมีให้เลือกอิ่มอร่อยถึง 3 สาขา คือ 1.คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ชั้น 3  มีให้เลือกกว่า 39 ร้าน 2.Thai Taste Hub @ Srivaree ในฮอลล์ขนาดใหญ่ ชั้น 1 คิง เพาเวอร์ ศรีวารี ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เปิดเสาร์-อาทิตย์ 11.00 – 19.30 น. มีเมนูอร่อยรสจัดจ้านจากสตรีตฟู้ดร้านดังรวมไว้ให้กลับไปอร่อยได้ที่บ้านได้ด้วย และ 3.ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์” ที่คิง เพาเวอร์ มหานคร ชั้น 1 ติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี ขณะนี้มีโปรโมชั่นลด 10 % เมื่ออาหารซื้อกลับบ้านช่วงเวลา 11.00-21.00 น. และสั่งอาหารดิลิเวอรี่ผ่านแอพลิเคชั่น Robinhood  ช่วงเวลา 10.00-19.30 น.

ทางด้าน “ห้องอาหารเท็นชิโนะ” ของ “โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ รางน้ำ” ชวนคลิกสั่งอาหารญี่ปุ่นทางออนไลน์ได้ทาง https://bit.ly/3o43PF9 ช่วงทำงานอยู่บ้านได้ตลอดทุกวัน ช่วง 11.00 – 21.00 น. พิเศษ!! สมาชิกบัตร คิง เพาเวอร์ และบัตร แอคคอร์พลัส รับทันทีส่วนลด 25%

โดมีเมนูข้าวกล่องดงบุรีแบบพรีเมี่ยม ให้เลือกได้ตามชอบถึง 8 หน้าด้วยกัน ราคาสุทธิเริ่มต้นเพียงเมนูละ 190 บาท โดยไม่รวมค่าจัดส่ง หรือสามารถมารับด้วยตัวเองได้ที่ชั้นล็อบบี้ของโรงแรม สั่งได้ทันทีทั้ง 8 เมนู คือ  1.ข้าวหน้าหมูมิโซะ  190 บาท 2.ข้าวหน้าไก่  270 บาท 3.สลัดซีฟู้ด 330 บาท 4. หน้าปลาไหล 350 บาท 5.ข้าวหน้าสเต๊กเนื้อ 355 บาท 6. ข้าวหน้ากุ้งทอด 355 บาท 7.ข้าวหน้าปลาแซลมอนย่าง 425 บาท 8.ข้าวหมูอิเบอริโกกับไข่ออนเซน 465 บาท โทร.สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-680-9999

กลุ่มที่ 3 ธุรกิจไลฟ์สไตล์เพื่อการพักผ่อน “คิง เพาเวอร์ มหานคร” ยังคงเปิดให้บริการ “มหานคร สกาย วอล์ค” จุดชมวิวสูงที่สุดกรุงเทพมหานคร บนชั้น 78 ปัจจุบันเปิดเวลา 11.00-21.00 น. มีโปรโมชั่นชวนมาดื่มด่ำบรรยากาศสบาย ๆ ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ ผู้ใหญ่ คนละเพียง 530 บาทเท่านั้น เสาร์-อาทิตย์ คนละ 880 บาท ส่วนเด็กอายุ 3-15 ปี กับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จ่ายคนละเพียง 250 บาท ซื้อบัตรได้ทางออนไลน์คิง เพาเวอร์ มหานคร

ทั้งนี้ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา เน้นปฏิบัติมาตรการดูแลป้องกันตามที่ภาครัฐกำหนดอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด และเน้นย้ำกำกับใช้มาตรการ D-M-H-T-T ของกระทรวงสาธารณสุข เป็นแนวทางปฏิบัติเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัดตามนโยบายรัฐบาลและเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของทุกคน

“คิง เพาเวอร์ โมเดล” ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างธุรกิจในการนำทัพแบรนด์ “ประเทศไทย” กับ “ธุรกิจคนไทย” พร้อมก้าวข้ามวิกฤตโควิด-19 ได้อย่างสง่างามไม่แพ้ชาติใดในโลก

เรื่องโดย…เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน :บล็อกเกอร์ gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.