สมาคมฯโล่งตรวจโควิดฟุตบอลทีมชาติไทย ไม่พบติดเพิ่ม – คมชัดลึก
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ แจ้งผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย ที่เข้าเก็บตัวฝึกซ้อมกลุ่มที่ 1 ที่แคมป์บางพลี สมุทรปราการ ซึ่งเดิมนักฟุตบอล 23 คน มีการพบเชื้อ 2 คน ซึ่งในการตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ผลการตรวจเชื้อ พบว่าทุกคนมีผลออกมาเป็นลบ ไม่พบเชื้อ
โดยทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะทำการออกใบรับรองผลตรวจอย่างเป็นทางการอีกครั้ง และ นักฟุตบอลทีมชาติไทย ทุกคนจะรับวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันที่ 18 พฤษภาคม ส่วนนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย กลุ่ม 2 ที่รวม 18 คน ซึ่งเข้าเก็บตัวฝึกซ้อม อยู่ที่ บุรีรัมย์ยูไนเต็ด เทรนนิ่งแคมป์ บางบ่อ สมุทรปราการ เข้ารับการฉีดวัคซีน เข็มที่ 2 ในวันที่ 12-13 และเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในเช้าของวันที่ 14 ซึ่งหากผลเป็นลบ ก็จะฝึกซ้อมตามโปรแกรมที่วางไว้
จากนั้น นักฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดที่ 1 และชุดที่ 2 จะเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 พร้อมกันอีกครั้ง ในวันที่ 19 พฤษภาคม และเข้าสู่การฝึกซ้อมต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนของกำหนดการเดินทางสู่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อลงแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคคัดเลือกรอบที่ 2 โซนเอเชีย เบื้องต้นยังคงเป็นวันที่ 21 พฤษภาคม เช่นเดิม
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยืนยันที่จะดำเนินงานอย่างระมัดระวัง และอยู่ภายใต้การดูแลและคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อให้นักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยสามารถเตรียมพร้อม และมีความพร้อมมากที่สุดก่อนเข้าสู่การแข่งขัน
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.