ฟุตบอลทีมชาติไทยเตรียมกลับมาซ้อม เดินหน้าภารกิจฟุตบอลโลก2022 – คมชัดลึก
ฟุตบอลทีมชาติไทย ซึ่งมีภารกิจลงแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ระหว่าง 3-15 มิถุยายน โดยขณะนี้ ได้เก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ โรงแรม ซัมมิท วินด์มิลล์กอล์ฟ เรสซิเดนซ์ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม ซึ่งมีนักกีฬาอยู่ในแคมป์ชุดแรก 23 คน และกลุ่มที่ 2 ที่จะเข้ามาสบทบ 18 คน โดยทั้ง 2 กลุ่ม จะฝึกซ้อมร่วมกันภายในวันจันทร์หรือช้าสุดวันอังคาร
ทั้งนี้แม้ว่าจะมีการตรวจพบโควิด-19 จากนักฟุตบอลทีมชาติไทย ในกลุ่มแรก ที่เข้ามาเก็บตัว 2 ราย และบุคลากร ที่สนับสนุนการทำงาน 4 ราย แต่ก็ไม่กระทบต่อแผนการฝึกซ้อมแต่อย่างใด โดย อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ร่วมกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และทีมแพทย์ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะวางรูปแบบการฝึกซ้อมของนักกีฬา เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากที่สุด
เป้าหมายของฟุตบอลทีมชาติไทย การฝึกซ้อมต้องเป็นไปตามที่กำหนด ควบคู่กับการดูแลความความปลอดภัยของทุกฝ่าย โดยจากนี้ไป ทุกอย่างจะถูกแยกส่วน เพื่อลดการสัมผัส นับตั้งแต่ การแจกจ่ายชุดฝึกซ้อม น้ำดื่ม อาหารในแต่ละมื้อ ให้นักฟุตบอล พักห้องพัก ห้องละ1 คน จากเดิมที่พัก 2 คน
“ ข่าวโควิด-19 ในแคมป์ทีมชาติ ไม่ได้สร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคนแต่อย่างใด ตอนนี้ก็แยกตัวผู้ที่มีอยู่ในรายพบเชื้อออกไปก่อน ส่วนการฝึกซ้อม การเตรียมทีมยังต้องเป็นไปตามกำหนดเดิม เพื่อให้สอดคล้องกับการแข่งขัน ที่กำลังจะมีขึ้น จากนี้ไปก็ต้องเร่งฝึกซ้อม เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดตัวผู้เล่น ให้เหลือเพียง 27 คน จากจำนวนผู้เล่นที่เรียกเข้าฝึกซ้อมทั้ง2 กลุ่ม คือ 41 คน จากนั้น 21 พฤษภาคม จึงออกเดินทางจากไทยไปสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เพื่อเตรียมเข้าแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก กับ 3 เกมที่เหลือ ” แหล่งข่าว ระบุ
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.