วันที่ 5 พ.ค. 64 สันติภาพ จันทร์หง่อม วิงแบ็กขวาฟอร์มเด่นจาก “เดอะ แรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ระบุ ตื่นเต้นและดีใจที่ได้รับโอกาสจาก อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ให้ติดทัพช้างศึกเป็นครั้งแรก ขณะนี้เริ่มปรับตัวได้ดีขึ้นเรื่อยๆ หลังผ่าน 2 วันแรกในการเข้าแคมป์ฝึกซ้อม เพื่อลุ้นติดทีมชาติไทย ไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)
สันติภาพ กล่าวว่า “ดีใจครับที่โค้ช (อากิระ นิชิโนะ) ให้โอกาส ก็รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยครับ เพราะเราเหมือนเป็นน้องใหม่ในทีมด้วย ผ่าน 2 วันแรก บรรยากาศโดยรวมก็โอเคครับ ส่วนตัวก็ปรับตัวเข้ากับโค้ช และเพื่อนร่วมทีมได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ก็ถือว่าพอใจกับตัวเองในระดับหนึ่งครับ จริงๆ ถ้ามองถึงผลงานของทีม (บีจี ปทุมฯ) ก็ถือว่าเป็นปีที่ดีที่สุด ตั้งแต่ผมเล่นฟุตบอลมาครับ แต่ถ้าเป็นผลงานส่วนตัว ผมคิดว่ายังไม่ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ครับ และยังมีอะไรที่ต้องปรับอีกเยอะ อย่างเช่น เรื่องสมาธิในเกม แน่นอนว่า ผมก็จะพยายามพัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ ครับ”
สันติภาพ กล่าวต่อ “ที่ผ่านมา ผมทำงานหนักมาตลอดครับ แต่จุดเปลี่ยนก็น่าจะเป็นเรื่องความคิดที่โตขึ้นครับ ผมพยายามหันกลับไปมองคนที่สนับสนุนผม อย่าง พ่อ แม่ หรือ แฟน พอหันกลับไปมอง ผมรู้สึกว่า มันทำให้ผมมีแรงผลักดันมากขึ้น เพื่อที่จะทำอะไรตอบแทนคนที่คอยสนับสนุนผมครับ”
“ส่วนอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญ ก็น่าจะเป็นการย้ายมาอยู่กับ บีจี ปทุมฯ ครับ จริงๆ มีหลายทีมติดต่อเข้ามา ก่อนจะมาลงเอยกับ บีจี ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่ามาแล้วจะได้เล่นมั้ย เพราะเราเองก็ค่อนข้างโนเนม แต่ผมคิดอย่างเดียวว่าต้องมาสู้ พอได้สู้ ได้เล่น ก็ทำให้เรามั่นใจมากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ผมบอกตัวเองอยู่ตลอดคือ เราไม่ได้เก่ง แต่เราแค่มีโอกาสมากกว่าคนอื่น ดังนั้น ต้องรักษาโอกาสตรงนี้ให้นานที่สุด”
“ก่อนหน้านี้ ก็ไม่เคยถอดใจครับที่ไม่มีชื่อติดเข้ามาสักที ผมแค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และอีกมุมหนึ่ง ผมว่ามันเป็นแรงผลักดันมากกว่า ที่ผมต้องทำผลงานเพื่อเอาชนะใจโค้ชให้ได้ กระทั่งวันนี้ที่โค้ชให้โอกาส อย่างที่บอก ดีใจครับ และอีก 3 วันที่เหลือ ผมก็จะเต็มที่ในส่วนของผมครับ”
แบ็กขวา เป็นตำแหน่งที่มีการแข่งขันสูงที่สุดในทีมชุดนี้ เพราะนอกจาก สันติภาพ จันทร์หง่อม แล้ว ยังมีอีกถึง 4 ราย ประกอบไปด้วย นิติพงษ์ เสลานนท์, สุพร ปีนะกาตาโพธิ์, ทริสตอง โด และ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ซึ่งเมื่อถูกถามว่า คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ‘เก้ง’ บอกว่า
“ใช่ครับ ในตำแหน่งผมมีการแข่งขันค่อนข้างสูง (ยิ้ม) แต่ถามว่าหนักใจมั้ย ก็ไม่เลยครับ ผมคิดว่าเป็นเรื่องดีต่อทีมมากกว่า และ ในแง่ตัวผมเองด้วย ที่จะได้ผลักดันตัวเองไปอยู่ในจุดที่พี่ๆ ยืนอยู่ อีกอย่าง โค้ชก็บอกแล้วว่าให้โฟกัสตัวเองก่อน พอเรามารวมเป็นทีม ก็ยิ่งจะทำให้ทีมดีขึ้น เอาเป็นว่าเรื่องนี้ เราทำให้โค้ชหนักใจแทนเราดีกว่าครับ (หัวเราะ) ส่วนโค้ชจะเลือกใช้งานใคร ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของโค้ช ที่ต้องเลือกสิ่งดีที่สุดให้ทีมครับ ขณะที่เป้าหมายของผม แน่นอนว่าผมอยากติดทีมไปเล่นที่ ยูเออี ครับ ก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถครับ เหนือสิ่งอื่นใด ผมอยากขอบคุณแฟนบอลสำหรับแรงเชียร์ที่ส่งเข้ามาด้วยครับ” สันติภาพ ปิดท้าย
สำหรับ ทีมชาติไทย จะเดินทางไปประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ ก่อนเริ่มต้นพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย วันที่ 3 มิถุนายน 2564 เวลา 23.45 น. ณ สนามอัล มัคตูม
This website uses cookies.