หนองบัวฯ เสริมแกร่งคว้า”อกีนันโด้” โควตาอาเซียน
“น้าฉ่วย”สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือใหญ่ หนองบัวพิชญ เอฟซี แชมป์ไทยลีก2ซีซั่นที่ผ่านมาที่ก้าวมาเป็นทีมน้องใหม่ไทยลีก2021-22 เผยกับทีมงานฟุตบอลสยามรายวันว่า ทีมได้คว้าตัวผู้เล่นใหม่อีก 1 ราย คือ อมานี อกีนันโด้ ปราการหลังทีมชาติฟิลิปปินส์ของสโมสรตราด เอฟซีเข้ามาร่วมทีมแล้ว โดยถือเป็นนักเตะโควต้าอาเซียนและเป็นผู้เล่นใหม่รายที่ 3 ที่ได้มาใหม่ ต่อจาก ณัฐพงษ์ ขจรมาลี ผู้รักษาประตู พีที ประจวบ และ สถาพร แดงสี แนวรับตราด เอฟซี ที่เพิ่งมีชื่อติด 47 คนของทีมชาติไทยชุดเตรียมคัดบอลโลกด้วย
สำหรับ อมานี อกีนันโด้ ปราการหลังทีมชาติฟิลิปปินส์ปัจจุบันอายุ 25 ปี ผ่านการลงเล่นให้กับหลายทีมในบ้านเกิด โดยเริ่มค้าแข้งกับ โลโยลา เอฟซี, โกลบอล เซบู เอฟซี, เซเรส เนกรอส เอฟซี ล่าสุดถูกปล่อยยืมตัวไปอยู่กับ เปรัก เอฟซี ทีมในลีกมาเลเซีย ก่อนจะเข้ามาสร้างชื่อในไทยลีกกับทีม ตราด เอฟซี ในฤดูกาล2020-21 พร้อมกับมีชื่อลงเล่นทีมชาติฟิลิปปินส์มาแล้ว 38 นัดซึ่งปัจจุบันยังเป็น 1 ใน 23 ขุนพลทีมชาติฟิลิปปินส์ชุดคัดบอลโลก2022โซนเอเชีย รอบแบ่งกลุ่ม สายเอ รอบสอง ที่จะไปแข่งขันนัดที่เหลือกันที่ประเทศจีนในช่วงเดือน มิ.ย.64 ด้วย
พร้อมกันนั้น “น้าฉ่วย”สมชาย ชวยบุญชุม ยังเผยถึงการมีข่าวให้ความสนใจกับ จอห์น บาจโจ้ แนวรุกของทีมสุโขทัย เอฟซี ด้วยว่า “จอห์น บาจโจ้ เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่อยู่ในความสนใจของเรา แต่ต้องยอมรับว่าเขาเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวแพงมาก ไม่ใช่แค่ บาจโจ้ คนเดียว นักเตะใหม่คนอื่นๆที่เราให้ความสนใจก็มีการตั้งราคาที่สูงเกินไปมาก ซึ่งเราก็ต้องมาวิเคราะห์กันก่อนว่าจะทำอย่างไร แต่โดยส่วนตัวหากว่าเราได้ จอห์น บาจโจ้ มาร่วมทีมหนองบัวพิชญ ผมเชื่อว่าศักยภาพของเราก็พอจะมีลุ้นจบ 1 ใน 5 ของไทยลีกได้อย่างแน่นอน”
อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.