Football Sponsored

อยู่บ้านดูบอลเฉยๆไม่เป็น! “เนย์มาร์” หาเหาใส่หัวเสี่ยงโดนแบน2เกม

Football Sponsored
Football Sponsored

เดลี่ เมล สื่อดังในอังกฤษ ตีข่าว เนย์มาร์ ดาวยิงค่าตัวแพงสุดในโลกของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หาเหาใส่หัวตัวเองแท้ๆ หลังโพสต์ภาพและข้อความพาดพิงการทำหน้าที่ของกรรมการ และยังใช้ถ้อยคำเชิงดูถูกเพื่อนร่วมอาชีพ ในเกมที่ต้นสังกัดชนะ บาร์เซโลน่า ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา งานนี้ดีไม่ดี ยูฟ่า อาจจะแบน 2 เกมเลยทีเดียว

           เนย์มาร์ กองหน้าทีมชาติบราซิล “เปแอสเช” ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มีสิทธิ์จะโดนลงโทษห้ามลงสนามในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 เกม หลังเจ้าตัวโพสต์สิ่งที่ไม่เหมาะสมในแมตช์ที่ต้นสังกัดไล่ถลุง บาร์เซโลน่า 4-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

           สตาร์ลูกหนังเลือดแซมบ้า ซึ่งไม่ได้ลงเล่นในแมตช์ดังกล่าวเนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บ สร้างปัญหาให้กับตัวเองแท้ๆ หลังจากที่โพสต์ภาพพร้อมข้อความไม่เหมาะสมทั้งการไม่เห็นด้วยกับจุดโทษที่ต้นสังกัดเก่าได้รับ และจังหวะที่ ลิโอเนล เมสซี่ ทำประตูขึ้นนำ

           ครั้งแรก เนย์มาร์ โพสต์ภาพที่ เลย์แว็ง คูร์ซาว่า ไปขัดขา แฟร้งกี้ เดอ ยอง ล้มในเขตโทษ ตามด้วยข้อความว่า “จุดโทษที่ตลกสิ้นดี” จากนั้นก็โพสต์ข้อความว่า “ประตูโคตรห่วย” หลังจากที่  เมสซี่ ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย 

           แม้ว่า เนย์มาร์ จะรีบลบทวิตข้อความดังกล่าวไปแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่ไวพอกับบรรดาแฟนลูกหนังที่จัดการแคปหน้าจอ และนำไปแชร์กันต่อ ซึ่งในกรณีนี้อาจจะส่งผลเสียหายกับเจ้าตัว หาก สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ตัดสินลงโทษด้านระเบียบวินัยด้วยข้อหา “ใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม” หรือ “แสดงพฤติกรรมละเมิดระเบียบของการแข่งขัน” ซึ่งอาจทำให้ กองหน้าทีมชาติบราซิล โดนแบน 2 เกม

           ในกรณีนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ เนย์มาร์ ทำให้ตัวเองโดนโทษแบนโดยไม่จำเป็น เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยโดน ยูฟ่า สั่งห้ามลงสนาม 3 เกม แต่หลังจากนั้นลดลงมาเหลือ 2 เกม จากกรณีที่วิจารณ์การให้จุดโทษของกรรมการในเกมที่พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2019 ซึ่งส่งผลให้ “เปแอชเช” ร่วงตกรอบฟุตบอลถ้วยใบโตยุโรป

ขอบคุณ : thesun.co.uk

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.