ไม่ทิ้งลายกองหน้า “พิสมัย” ยิงเฉียบ ทำประตูแรกในลีกหญิงไต้หวัน ซีซั่นนี้ (คลิป)
วันที่ 18 เม.ย. 64 “ปุ๋ย” พิสมัย สอนไสย์ นักเตะสารพัดตำแหน่งของทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงนัดที่ 2 ให้กับ ไถจง บลูเวลล์ ทีมฟุตบอลหญิงชั้นนำในลีกไต้หวัน และสามารถประเดิมประตูแรกในฤดูกาลนี้ได้แล้ว
จังหวะดังกล่าว “ปุ๋ย” ได้บอลจากการเปิดเรียดเข้าเขตโทษของเพื่อนร่วมทีม ก่อนแต่งหาช่องแล้วยิงเล่นทาง ส่งบอลหนีมือผู้รักษาประตูเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างเด็ดขาด เป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ของ ไถจง บลูเวลล์ ในนาทีที่ 17 ก่อนบุกไปชนะ เกาสง ซันนี แบงค์ 2-0 เก็บ 3 คะแนนแรกได้สำเร็จ
ทั้งนี้ “ปุ๋ย” พิสมัย สอนไสย์ แจ้งเกิดในตำแหน่งกองหน้า โดยทำไปถึง 75 ประตู จากการลงเล่นให้กับทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ไปทั้งสิ้น 115 นัด แต่หลังจากบาดเจ็บหนักบริเวณเข่าทั้ง 2 ข้าง ทำให้เธอปรับบทบาทในสนาม ด้วยการถอยลงมาเล่นทั้งปราการหลังตัวกลางและมิดฟิลด์
อย่างไรก็ตาม “ปุ๋ย” ยังทำหน้าที่ได้ดีอย่างสม่ำเสมอ และติดทัพ “ชบาแก้ว” ไปลุยฟุตบอลโลก 1 สมัยในปี 2019 ที่ประเทศฝรั่งเศส กระทั่งฤดูกาลที่แล้วก็ถูกดึงตัวไปเล่นลีกหญิงไต้หวันกับ อินเตอร์ เถาหยวน เอฟซี ก่อนที่จะได้รับสัญญากลับมาค้าแข้งที่ไต้หวันอีกครั้งกับ ไถจง บลูเวลล์ ในซีซั่นนี้
*[ชมคลิป พิสมัย สอนไสย์ ทำประตูแรกในลีกหญิงไต้หวัน ฤดูกาลนี้ (นาทีที่ 26.27 – 27.25) ]
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.