เกิดอะไรขึ้นกับวินิซิอุส? เปิด 6 เหตุผลสตาร์เรอัล มาดริดฟอร์มตก | Goal.com ภาษาไทย

บราซิล ถูกยกให้เป็นเต็งแชมป์เสมอในศึกฟุตบอลโลก โดยเฉพาะในปี 2022 ที่พวกเขามีขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบหลายปี

วินิซิอุส กำลังอยู่ในช่วง 12 เดือนที่ดีสุดในอาชีพค้าแข้ง และดูเหมือนพร้อมแล้วที่เป็นจิ๊กซอว์สำคัญช่วยให้ขุนพลเซเลเซาคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 6

วินิซิอุส ลงสนามเป็นตัวจริง 4 จาก 5 เกมในศึกฟุตบอลโลกให้กับทีมชาติบราซิล ก่อนที่พลพรรคแซมบ้าจะแพ้ โครเอเชีย จอดป้ายเพียงรอบก่อนรองชนะเลิศ

เขาไม่ใช่นักเตะเพียงคนเดียวที่กลับมาเล่นให้สโมสรหลังจบฟุตบอลโลก แต่เขาลงเล่นมาอย่างต่อเนื่องโดยแทบไม่ได้หยุดพักเลยในฤดูกาลนี้ ซึ่งรวมถึงผลกระทบทางด้านจิตใจจากการตกรอบฟุตบอลโลกด้วย

เมื่อปีที่แล้วในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ แฟร์นันดินโญ โดนวิจารณ์อย่างหนักว่าหยุด วินิซิอุส ไม่อยู่ หลังถูก เป๊ป กวาร์ดิโอลา ปรับให้มาเล่นเป็นแบ็คขวา

โดยเขาถูกวิจารณ์ว่าอยู่ใกล้แนวรุกเพื่อนร่วมชาติมากเกินไปจนโดนพลิกหนีแบบง่ายดาย ซึ่งเมื่อเปิดช่องให้ วินิซิอุส ได้ใช้ความเร็ว มันก็เป็นเรื่องยากที่จะหยุดเขาอยู่

หลังจากนั้น บรรดาแนวรับของทีมคู่แข่งเริ่มมีการปรับวิธีเล่นเกมรับเวลาต้องเผชิญหน้ากับ วินิซิอุส โดยจะไม่ใช้วิธีพุ่งเข้าประกบอย่างรวดเร็วเหมือนเมื่อก่อน แต่จะใช้วิธีประคองจังหวะเพื่อรอให้เพื่อนร่วมทีมเข้ามาช่วย ซึ่งบางทีเราจะเห็นว่าเขาโดนคู่แข่งรุมเข้ามาแย่งบอลถึงสามคน

สังเกตุได้ว่าในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราการเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งของดาวเตะราชันชุดขาวลดลงอย่างเห็นได้ชัด จากสถิติอ้างอิงของ FBref

แม้จะมีปัจจัยเรื่องความอ่อนล้า และ การโดนเข้าสกัดที่รุนแรงเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคู่แข่งทุกทีมเริ่มปรับวิธีในการรับมือเขาแล้ว

กุญแจสำคัญในความสำเร็จของ เรอัล มาดริด ฤดูกาลที่แล้ว คือการประสานงานอันยอดเยี่ยมของ คาริม เบนเซมา และ วินิซิอุส ทั้งสองคนสร้างความอันตรายอย่างมากในพื้นที่สุดท้าย โดยใช้ทั้งความเร็วและความฉลาดทำลายเกมรับคู่แข่ง

แต่การประสานงานที่เราคุ้นตากลับลดลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้หัวหอกชาวฝรั่งเศสจะยังทำประตูได้ต่อเนื่อง แต่แนวรุกชาวบราซิล ไม่มีชื่อเป็นผู้ทำแอสซิสต์ให้คู่หูของเขาเลยสักครั้งนับตั้งแต่กลับมาจากฟุตบอลโลก

วินิซิอุส เจอปัญหาในการปรับตัวกับ ราชันชุดขาว ในช่วง 2-3 ฤดูกาลแรก แต่เมื่อฟอร์มของ เบนเซมา ร้อนแรงก็ส่งผลให้ผลงานของคู่หูของเขาดีขึ้นไปด้วย

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าฟอร์มของ เบนเซมา มีส่วนทำให้พรสวรรค์ของ วินิซิอุส เปล่งประกายมากขึ้น ขณะเดียวกันหากหัวหอกตราไก่ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีสุด ก็ส่งผลโดยตรงถึงดาวเตะแซมบ้าเช่นกัน

นักเตะที่มีความเร็วและเทคนิคดีมักจะตกเป็นเป้าในการทำฟาล์วของคู่แข่ง ซึ่งแน่นอนว่า วินิซิอุส ก็เป็นหนึ่งในนั้น

ทุกเกมที่เขาลงสนามรับประกันได้เลยว่าจะต้องโดนสตั๊ดของคู่แข่งเหยียบใส่อย่างแน่นอน โดยเขาคือนักเตะที่โดนทำฟาล์วมากที่สุดในยุโรปฤดูกาลนี้ ถึง 81 ครั้ง

แต่มีเรื่องน่าแปลกใจตรงที่ นักเตะที่ทำฟาล์ว วินิซิอุส มักไม่ค่อยโดนใบเหลืองหรือใบแดง จนทำให้ คาร์โล อันเชล็อตติ เคยออกมาพูดถึงประเด็นนี้และเรียกร้องให้มีการปกป้องลูกทีมของเขามากกว่านี้

โดยเมื่อเกมวันอาทิตย์ที่ผ่านมา วินิซิอุส โดนทำฟาล์วหนักใส่ถึง 6 ครั้ง แต่ผู้ตัดสินไม่มีการแจกใบเหลืองเลย

เขาไม่ใช่นักเตะที่มีชื่อเสียงด้านการพุ่งล้ม ทุกครั้งที่เขาถูกเตะมันเป็นจังหวะค่อนข้างชัดเจนแต่กลับไม่ได้รับการปกป้อง ซึ่งอาจส่งผลกับสภาพร่างกายและสภาพจิตใจของเขาเวลาเผชิญหน้าคู่แข่งในสนาม

วินิซิอุส เป็นคนที่มักมีปัญหากับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน และไม่กลัวที่จะมีปากเสียงกับคู่แข่ง ซึ่งมันเป็นส่วนหนึ่งในบุคลิกของเขา ที่เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียไปพร้อมๆกัน

ปัญหาอยู่ที่คู่แข่งเริ่มรู้วิธีใช้ประโยชน์จากจุดนี้ อย่างเช่นเกม โกปา เดล เรย์ รอบ 16 ทีมสุดท้าย กับ บียาร์เรอัล เขาโดน เปเป้ เรย์นา ตะโกนบางอย่างใส่จากม้านั่งสำรอง ก่อนที่ต่อมาทั้งสองคนจะมีปากเสียงกัน และมันส่งผลกับสมาธิในสนามของเขาอย่างชัดเจน

หรืออย่างในเกมกับ แอตเลติก บิลเบา เขาโดนใบเหลืองจากการไปเอาคืนคู่แข๋ง หลังโดนตามประกบและทำฟาล์วใส่หลายครั้ง ซึ่งดูเหมือนเป็นแผนที่มีการทำการบ้านมาล่วงหน้า

วินิซิอุส โดนใบเหลืองมาแล้วถึง 5 ครั้งในฤดูกาลนี้ ทั้งที่เป็นนักเตะแนวรุก ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าคู่แข่งรู้ดีว่าต้องใช้วิธีไหนในการทำลายสมาธิของเขา

วินิซิอุส ตกเป็นเป้าการโดนเหยียดผิวจากแฟนบอลคู่แข่ง ทั้งทางโซเชียลมีเดียและในสนาม นับตั้งแต่ย้ายจาก ฟลาเมงโก้ มาเล่นในยุโรป

แม้เขาจะรับมือได้ดีในช่วงแรก แต่ในระยะหลังสถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้น โดยเมื่อช่วงเดือนธันวาคมเขาถูกแฟนบอล เรอัล บายาโดลิด เหยียดผิวอย่างหนัก ซึ่งนำไปสู่การทะเลาะกับประธาน ลาลีกา อย่าง ฮาเวียร์ เตบาส เรื่องการจัดการปัญหานี้

หรือเหตุการณ์ที่เขาโดน โกเก้ กัปตันทีม แอตเลติโก มาดริด วิจารณ์เรื่องการเต้นฉลองประตูว่าไม่เหมาะสม ซึ่งเขาสวนกลับดาวเตะทีมชาติสเปนว่าเป็นคำวิจารณ์ที่เหยียดเชื้อชาติ เพราะการฉลองประตูแบบนี้เป็นเอกลักษณ์ของนักเตะบราซิลอยู่แล้ว

หลากหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งในสนาม, นอกสนาม และโซเชียลมีเดีย แม้จะได้รับการสนับสนุนจากแฟนบอลราชันชุดขาวและเพื่อนร่วมทีม แต่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่อาจมองข้ามได้ ว่ามันส่งผลกับฟอร์มการเล่นของเขา