โอปป้าโอลุยแดนวิสกี้!เซลติก คว้ากองหน้าเกาหลีทางการ
โอ ฮยอน-กยู หัวหอกเกาหลีใต้ กลายเป็นแข้งโสมขาวอีกรายที่ได้ไปค้าแข้งกับ เซลติก ต่อจากรุ่นพี่อย่าง คี ซุง-ยอง และ ชา ดู-รี
เซลติก ทีมดังในลีกสกอตแลนด์ ประกาศยืนยันคว้าตัว โอ ฮยอน-กยู กองหน้าทีมชาติเกาหลีใต้ มาจาก ซูวอน บลูวิงส์ อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันพุธที่ 25 มกราคม ด้วยค่าตัว 2.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 101 ล้านบาท)
ดาวยิงวัย 21 ปี เผยหลังเซ็นสัญญากับ เซลติก เป็นเวลา 5 ปีว่า “ผมมีความสุขที่ได้มาเล่นให้กับหนึ่งในสโมสรชั้นนำ และดีใจที่ความฝันของผมกลายเป็นจริง ผมรู้สึกเหมือนอยู่ในกองถ่ายภาพยนตร์และรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้อยู่ในเมืองนี้”
“ผมตั้งตารอคอยวันที่จะมาถึง นี่คือช่วงเวลาที่ผมฝันถึง และผมก็ตื่นเต้นมากที่จะได้ลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลที่สนามของเรา” ฮยอน-กยู ที่จะได้สวมเสื้อหมายเลจ 19 ให้กับ เซลติก กล่าว
ฮยอน-กยู ทำไป 14 ประตูให้กับ ซูวอน ในรอบปีปฎิทิน 2022 และถูกเรียกตัวติดทีมชาติครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา รวมทั้งมีชื่อติดทัพ “โสมขาว” ชุดเบื้องต้นฟุตบอลโลก 2022 แต่ถูกตัดตัวเสียก่อน ทำให้ไม่ได้ไปลุยทัวร์นาเมนต์ที่ประเทศกาตาร์
ทั้งนี้ ฮยอน-กยู ไม่ได้เป็นนักเตะชาวเกาหลีใต้รายแรกที่มาเล่นให้กับ เซลติก เพราะก่อนหน้านี้ทั้ง คี ซุง-ยอง และ ชา ดู-รี เคยมาค้าแข้งกับ “ม้าลายเขียว-ขาว” มาแล้วในช่วงต้นทศวรรษ 2010
ที่มาของภาพ : celticfc
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.