Football Sponsored

จับสลาก WAFF 2023 : ทีมชาติไทยอยู่โถไหน? มีโอกาสเจอทีมใดบ้าง? | Goal.com ภาษาไทย

Football Sponsored
Football Sponsored

ช้างศึกเพิ่งคว้าแชมป์อาเซียน 2022 มาครองได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นแชมป์สมัยที่ 7 ในประวัติศาสตร์ และเตรียมเข้าร่วมศึก WAFF 10th Men Championship – UAE 2023 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในโปรแกรมฟีฟ่าเดย์ เดือนมีนาคมนี้ ระหว่างวันที่ 20 มีนาคม – 2 เมษายน 2566

นับเป็นเรื่องดีที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้รับการเทียบเชิญจากสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียตะวันตก (WAFF) ให้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียตะวันตก 2023 ที่จะจัดขึ้นทุก ๆ สองปี

ล่าสุดเป็นที่แน่นอนแล้วว่า ทีมชาติไทย ตอบตกลงเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้ทีมก่อนลุยศึกสำคัญอย่างฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย และ ฟุตบอลเอเอฟซี เอเชียน คัพ 2023 รอบสุดท้าย นี่คือทุกเรื่องที่แฟนบอลต้องรู้ก่อนเชียร์ช้างศึกในรายการ WAFF

ทีมใดเข้าร่วมบ้าง?

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียตะวันตก 2023 ในครั้งนี้ มี 12 ทีมเข้าร่วมชิงชัย ประกอบด้วย ซาอุดิอาระเบีย (อันดับ 49), อิรัก (อันดับ 68), สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (อันดับ 70), โอมาน (อันดับ 75), จอร์แดน (อันดับ 84), บาห์เรน (อันดับ 85), ซีเรีย (อันดับ 90), ปาเลสไตน์ (อันดับ 93), เลบานอน (อันดับ 100), ไทย (อันดับ 111), คูเวต (อันดับ 148), เยเมน (อันดับ 154)

โดยทัพช้างศึกในฐานะทีมรับเชิญ เป็นทีมเดียวที่มาจากนอกภูมิภาค และกำลังจะได้ลงฟาดแข้งในรายการนี้ครั้งแรก

จับสลาก WAFF 2023 เมื่อไหร่? ติดตามได้ทางไหนบ้าง?

ในส่วนของพิธีการจับสลากแบ่งสายในศึก WAFF 2023 จะจับสลากในวันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2566 ซึ่งรูปแบบการแบ่งโถสำหรับจับสลากยังไม่มีรายละเอียดออกมาอย่างเป็นทางการ ซึ่งแฟน ๆ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของการแข่งขันครั้งนี้ได้ทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก West Asian Football Federation

ไทยอยู่โถไหน? มีโอกาสเจอใคร?

แม้ว่าจะยังไม่มีรายละเอียดเรื่องการแบ่งโถจับสลากออกมา แต่รูปแบบการแข่งขันในรายการนี้จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม คัดเอาแชมป์กลุ่ม 3 ทีม และอันดับสองที่ดีที่สุดอีก 1 ทีม ผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ

นั่นหมายความว่าแต่ละทีมจะการันตีลงสนามในรอบแรกแน่ ๆ ทีมละ 3 เกม และหากผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ทีม ๆ นั้นจะได้ลงสนามถึง 5 เกมเลยทีเดียว

ช้างศึกจะได้ประโยชน์อะไรจากทัวร์นาเมนต์ WAFF 2023

นอกจากจะได้ดวลกับคู่แข่งที่แข็งแกร่งในภูมิภาคนี้แล้ว ทีมของ มาโน่ โพลกิ้ง จะได้วัดศักยภาพแบบจริง ๆ จัง ๆ ในระดับเอเชีย ก่อนลุยศึกสำคัญอย่างฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รวมไปถึง ฟุตบอลเอเอฟซี เอเชียน คัพ 2023 ที่จะฟาดแข้งที่กาตาร์ในช่วงต้นปี 2024

ขณะเดียวกันนี่ยังเป็นโอกาสดีที่จะทำให้ทีมชาติไทยไต่อันดับฟีฟ่าแรงกิ้งขึ้นไป หากสามารถเก็บผลการแข่งขันที่ดีกับทีมที่มีอันดับโลกสูงกว่า

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.