Football Sponsored

ติ่งสุดขั้วหัวใจ! หนุ่มอินเดียรัก โด้ มากสักชื่อ-เบอร์7กลางหลัง

Football Sponsored
Football Sponsored

แฟนพันธุ์แท้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ลูกหนักชาวโปรตุกีส แสดงให้เห็นถึงความรักที่มีต่อตัว “ซีอาร์ เซเว่น” ด้วยการลงทุนสักชื่อ และหมายเลข 7 เอาไว้ที่แผ่นหลัง

กัปตันทีมชาติโปรตุเกส เป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการค้าแข้งทั้งในระดับสโมสร และทีมชาติ ด้วยเหตุนี้ทำให้เขามีฐานแฟนบอลมากมายมหาศาล 

หนึ่งใน “ติ่ง” สตาร์เลือดฝอยทอง วัย 37 ปี เป็นชายชาวอินเดีย ที่รักและเทิดทูน ตำนาน “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด และ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการสักคำว่า “โรนัลโด้” และเบอร์เสื้อหมายเลข “7” กับลูกฟุตบอล เพื่อเป็นการยืนยันว่าเขาศรัทธาในตัว ยอดแข้งเจ้าของบัลลงดอร์ 5 สมัย อย่างมาก

หนุ่มจากแดนภารตะ โชว์แผ่นหลังของเขาผ่านแพลตฟอร์ม อินสตาแกรม พร้อมเปิดใจถึงความรักที่ให้กับ โรนัลโด้ ซึ่งปัจจุบันย้ายไปค้าแข้งกับ อัล-นาสเซอร์ สโมสรในศึก ซาอุดิ โปร ลีก และยอมรับถึงขนาดร้องไห้ตอนที่ โปรตุเกส ตกรอบ 8ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ 

“ผมเป็นแฟนตัวยงของ โรนัลโด้ ผมรักทัศนคติและการทำงานหนักของเขา เขามาจากครอบครัวชนชั้นกลางเช่นเดียวกับผม เขาทำให้ประเทศบ้านเกิดภาคภูมิใจ และเขาก็ทำให้ โปรตุเกส เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เขาไม่เคยมีงานอดิเรกแย่ๆ เลย”

“คุณภาพเหล่านี้ และบุคลิกของเขาทำให้ผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเขา ผมศรัทธาในตัวเขามากๆ ดังนั้นผมก็เลยตัดสินใจสักชื่อเขา และหมายเลขนี้ ผมรู้ว่า โรนัลโด้ ไม่ชอบเรื่องสัก แต่ผมนักให้กับตัวเอง และผมรู้สึกใจสลายตอนที่ โปรตุเกส ตกรอบฟุตบอลโลก”

“ผมเต็มไปด้วยอารมณ์สุดเศร้าตอนที่เห็นเขาร้องไห้ ผมโพสต์วีดิโอที่ทำการสักผ่านอินสตาแกรม และแชร์มันไปในบางเพจ มันกลายเป็นไวรัล ซึ่งผมไม่ได้คาดหวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น” หนุ่มแดนโรตี ระบุ

ที่มาของภาพ : ฟุตบอล

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.