- ชามูน ฮาเฟซ
- บีบีซี สปอร์ต ที่สนามลูเซล
นี่คือช่วงเวลาที่ไม่เหมือนใครที่จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ของการแข่งขันฟุตบอลโลก และจะทำให้นึกถึงตะวันออกกลางตลอดไป
ลิโอเนล เมสซี นักเตะที่ยอดเยี่ยมได้รับการประกาศชื่อให้ขึ้นไปบนเวทีเพื่อชูถ้วยรางวัลชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลโลกที่เขาหมายปองมานานตลอดช่วงการเล่นฟุตบอลอาชีพที่แสดงความสามารถได้เหนือชั้นและประสบความสำเร็จอย่างงดงามของเขา
ส่วนอีกด้านหนึ่งของเวที เพื่อร่วมทีมชาติอาร์เจนตินากำลังรอให้เขานำถ้วยรางวัลมาร่วมฉลองชัยชนะด้วยกัน หลังจากดวลลูกโทษเอาชนะฝรั่งเศสไปได้ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่ยอดเยี่ยมที่สุดนัดหนึ่ง
เมสซีได้ขึ้นเวทีไปจับมือกับจานนี อินฟานตีโน ประธานฟีฟ่า และชีค ทามีม ของกาตาร์ ซึ่งได้ทรงใช้พระหัตถ์ตบเบา ๆ ที่คอของนักเตะวัย 35 ปีคนนี้ 2 ครั้ง
จากนั้น ก็มีการนำชุดบิชต์ (bisht) สีดำซึ่งเป็นชุดคลุมที่ผู้ชายนิยมสวมใส่ในโลกอาหรับ มาสวมให้กับเมสซี ก่อนที่เขาจะเต้นเข้าไปหาเพื่อนร่วมทีมและชูถ้วยรางวัลนี้
ไม่เพียงแต่เป็นช่วงเวลาสำคัญของเมสซีเท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงเวลาของกาตาร์ด้วย การแข่งขันฟุตบอลโลกสิ้นสุดลงในวันชาติของกาตาร์ เป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกที่จัดขึ้นในประเทศมุสลิม
นี่อาจจะเป็นเกียรติสำหรับเมสซีที่ได้สวมชุดอาหรับ แต่หลายคนก็มองว่า เป็นการไม่เคารพและบดบังความสำคัญของวันที่เขาเฝ้ารอคอยมานาน
ชีค ทามีม ทรงระบุผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “เราได้ทำตามสัญญาแล้วว่าจะจัดการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมจากประเทศอาหรับ”
“นี่คือโอกาสสำหรับผู้คนทั่วโลกในการได้ทำความรู้จักกับความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมของเราและต้นกำเนิดค่านิยมต่าง ๆ ของเรา”
ฝันของ “เด็กหนุ่ม” กลายเป็นจริง
อาร์เจนตินาเกือบจะพลาดโอกาสนี้ไป จากผลงานอันยอดเยี่ยมของฝรั่งเศส ทีมคู่แข่ง
คีเลียน เอ็มบัปเป นักเตะที่ยอดเยี่ยมอีกคนจากฝรั่งเศสยิงได้ 3 ประตูในนัดนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่มีการทำได้ 3 ประตูจากนักเตะคนเดียวในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศ นับตั้งแต่เซอร์เจฟฟ์ เฮิร์สต์ ของอังกฤษทำได้ในปี 1966 แต่ทีมอาร์เจนตินาเชื่อว่า ดิเอโก มาราโดนา นักเตะในตำนานล่วงลับ กำลังดูพวกเขาอยู่
ในที่สุด ความหวังและความฝันของเมสซีและชาวอาร์เจนตินาทุกคน ก็กลายเป็นความจริงที่สนามลูเซล (Lusail Stadium)
ผู้คนได้พากันร้องเพลงเพลงหนึ่งกระหึ่มไปทั่วกาตาร์และในอาร์เจนตินาอีกครั้ง นั่นก็คือเพลงที่บอกว่า ดิเอโก กำลังมองลงมาจากฟ้า “เชียร์ลิโอเนลให้คว้าแชมป์อีกครั้ง และคว้าแชมป์อีกครั้ง”
เพลง “มูชาโชส” เป็นการนำบทเพลงของวงลา โทสกา (La Tosca) ของอาร์เจนตินามาขับร้องใหม่ โดยเพลงท่อนหนึ่งมีความหมายว่า “หนุ่ม ๆ เรามีความหวังอีกครั้งแล้ว”
บรรดาลูกทีมของลิโอเนล เอสกาโลนี ผู้ฝึกสอนทีมชาติอาร์เจนตินา นำโดยเมสซีที่ปราดเปรียว ได้กำจัดความเจ็บปวดนานกว่า 3 ทศวรรษให้หมดไป หลังจากคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 3 ได้สำเร็จ ในการได้เข้ารอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่ 6 โดยก่อนหน้านี้พวกเขาเคยเป็นแชมป์ในปี 1978 และ 1986 มาแล้ว
“เมสซีอยู่ไหน” นี่คือคำตอบ
การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งนี้เริ่มขึ้นด้วยความตกตะลึงต่อผลงานของอาร์เจนตินา
“เมสซีอยู่ไหน เมสซีอยู่ไหน” แฟนบอลจากซาอุดีอาระเบียพากันถามคำถามนี้ หลังจากทีมของพวกเขาเอาชนะอาร์เจนตินาไปได้อย่างเหลือเชื่อ 2-1 ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มนัดแรก
คำเยาะเย้ยนี้ดังกระหึ่มไปทั่วกรุงโดอา ในอีกหลายวันต่อมา และกลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดีย
แต่ผลงานอันยอดเยี่ยมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค. ได้ช่วยตอบคำถามนี้แล้วอย่างไม่มีข้อสงสัย เพราะเมสซีได้ยืนยันถึงความยิ่งใหญ่ในวงการลูกหนังของเขาแล้ว เขาก้าวขึ้นไปบนเวทีพร้อมสวมปลอกแขนหัวหน้าทีมชาติและชูรางวัลพิเศษที่มอบให้กับสุดยอดนักเตะในการแข่งขันครั้งนี้
ทันทีที่เราเดินทางไปถึงเมืองหลวงของกาตาร์เมื่อ 16 พ.ย. เรารู้สึกเหมือนกับว่า นี่คือฟุตบอลโลกของเมสซี เสื้อทีมอาร์เจนตินาติดหมายเลข 10 ของเมสซีปรากฏอยู่ทุกที่ ทั้งตามท้องถนน ตลาด และสนามต่าง ๆ ผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ๆ ต่างพากันสวมใส่
เสื้อของมาราโดนา อดีตนักฟุตบอลชื่อดังที่ล่วงลับไปแล้วของอาร์เจนตินา ก็พบได้ทั่วไปเช่นกัน แต่ก็เทียบไม่ได้เลยกับเมสซี สุดยอดนักฟุตบอลของโลกในปัจจุบัน
มีการเปิดเพลง “มูชาโชส” ทั้งตามสถานีรถไฟใต้ดินและในรถบัสรับส่ง ไม่มีใครที่จะไม่ได้ยินเพลงนี้ แม้แต่ในตอนที่หลับอยู่
ไม่ต่างอะไรกับวันสุดท้ายของการแข่งขัน
ธงชาติอาร์เจนตินาประดับอยู่ตามดาดฟ้าและระเบียงต่าง ๆ รวมถึงหน้าต่างร้านย่านต่าง ๆ ของกรุงโดฮา มีเพียงทีมเดียวที่พวกเขาอยากจะให้ได้ถ้วยกลับไป
ในการเดินทางไปยังลูเซล ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโดฮาไปทางเหนือราว 18 กิโลเมตร เต็มไปด้วยแฟนบอลที่เชียร์ทีมอาร์เจนตินา ร้องเพลงของพวกเขาและพากันตะโกนว่า “เมสซี เมสซี”
แฟนบอลจำนวนหนึ่งจากอาร์เจนตินาเข้าไปในสนามก่อนที่จะเริ่มการแข่งขันเป็นเวลานาน พวกเขาพากันตีกลอง กระโดดโลดเต้น และนำผ้าพันคอสีฟ้าขาวมาสะบัดไปมาเหนือหัว
เมื่อเห็นภาพบรรดานักเตะก้าวลงจากรถบัสปรากฏบนหน้าจอขนาดใหญ่ มีเสียงเชียร์กระหึ่มกึกก้องต้อนรับเมสซี นักเตะดาวดัง ผู้คนพากันลุกขึ้นยืนตบมือให้เขา เช่นเดียวกับตอนที่มีการอ่านชื่อนักเตะในทีม
เมสซีทำประตูแรกได้จากการยิงลูกโทษ ขณะที่ฮิวโก ลอรีส ผู้รักษาประตูของฝรั่งเศสกระโดดสกัดบอลผิดทาง
เพื่อนร่วมทีมพากันนอนทับตัวเขา ขณะที่เขาไถลตัวล้มลงด้วยความดีใจ และสวมกอดกับโรดริโก เด ปอล
จากนั้นอังเฆล ดี มารีอา ก็ทำประตูที่สองให้กับอาร์เจนตินา เพลง “มูชาโชส” ก็ดังขึ้นอีกครั้งขณะที่แฟนบอลกระโดดขึ้นลงบนอัฒจันทร์
แต่เอ็มบัปเปคงรู้สึกต่างออกไป
เอ็มบัปเป ซูเปอร์สตาร์ของฝรั่งเศส ซัดบอลตุงตาข่ายได้ 2 ลูกติด ๆ กัน ห่างกันเพียง 97 วินาที ตีเสมออาร์เจนตินาได้สำเร็จ ทำให้ต้องต่อเวลาการแข่งขัน
เมสซีคงคิดว่า เขาชนะแล้ว หลังทำประตูได้ในระยะใกล้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่เอ็มบัปเปก็แสดงฝีมืออันยอดเยี่ยมยิงลูกโทษตีเสมอได้อีกครั้ง
อาร์เจนตินาต้องมาลุ้นในการดวลจุดโทษ โดยเมสซี เป็นผู้ยิงคนแรกของอาร์เจนตินา ฝ่ายอาร์เจนตินายิงจุดโทษเข้าไปแล้ว 3 ลูกติดกัน ขณะที่ฝ่ายฝรั่งเศสพลาดไปแล้ว 2 ลูก ดังนั้นหากอาร์เจนตินายิงจุดโทษเข้าได้อีกครั้งในการดวลครั้งที่ 4 ก็จะเป็นฝ่ายชนะไปในทันที และกอนซาโล มอนติเอล ก็ทำสำเร็จกลายเป็นฮีโร่ในการยิงจุดโทษทำให้อาร์เจนตินาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกไปได้
เมสซีโบกมือทักทายครอบครัวที่อยู่บนอัฒจันทร์ บรรดาผู้เล่นทีมชาติอาร์เจนตินาพากันฉลองชัยชนะกับครอบครัวบนสนาม ถ่ายรูปพร้อมกับถ้วยรางวัลหน้าประตู ขณะที่บรรดาแฟนบอลก็ยังคงอยู่ในสนามเป็นเวลานานหลังจากการแข่งขันสิ้นสุดลง
การที่ต้องแบกรับภาระของทีม บรรดาผู้เล่นในทีมได้ยกย่องเมสซี ด้วยการยกตัวเขาขึ้นบนบ่าและแบกเขาไปรอบสนามพร้อมกับถ้วยรางวัล
การแข่งขันครั้งนี้ได้ผ่านพ้นไปแล้ว มาราโดนาได้ส่งไม้ต่อมาให้กับเมสซีแล้ว เมสซีได้แสดงให้เห็นถึงการเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมของเขาอย่างไร้ข้อกังขา