“เยอรมนี” ตาม “นอร์เวย์” ร้องสิทธิมนุษยชน แรงงานต่างด้าวดับเซ่นสนามบอลโลกกาตาร์
เยอรมนี แสดงออกเพื่อเรียกร้องสิทธิมนุษยชนตามรอย นอร์เวย์ กรณีแรงงานต่างด้าวหลายพันคนเสียชีวิตจากการสร้างสนามให้ กาตาร์ เจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022
วันที่ 26 มี.ค. 64 ควันหลงฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป นัดแรก กลุ่มเจ ซึ่ง เยอรมนี เปิดบ้านชนะ ไอซ์แลนด์ 3-0 เก็บ 3 แต้มแรก พร้อมกับเป็นทีมนำของกลุ่ม
ก่อนเกมนี้ ขุนพล “อินทรีเหล็ก” ที่ลงสนามเป็น 11 คนแรกพร้อมใจกันสวมเสื้อยืดสีดำที่มีตัวอักษรภาษาอังกฤษเรียงกันเป็นคำว่า “HUMAN RIGHTS” (สิทธิมนุษยชน) เพื่อแสดงออกถึงการเรียกร้องสิทธิมนุษยชน กรณีที่แรงงานต่างด้าวประมาณ 6,500 คนเสียชีวิตจากการก่อสร้างสนามเพื่อรองรับการแข่งขัน นับตั้งแต่ กาตาร์ ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย เมื่อปี 2010
เยอรมนี ถือเป็นทีมชาติที่ 2 ซึ่งออกมาเรียกร้องสิทธิมนุษยชนให้กับแรงงานต่างด้าวที่ถูกกดขี่ในประเทศกาตาร์ต่อจาก นอร์เวย์ ซึ่งก็ได้สวมเสื้อยืดสีขาวที่มีข้อความว่า “RESPECT” (เคารพ) และ “HUMAN RIGHTS” ก่อนเกมในกลุ่มจี ซึ่งบุกไปชนะ ยิบรอลตาร์ 3-0 เมื่อวันพุธที่ผ่านมาด้วย
ทั้ง เยอรมนี และ นอร์เวย์ ต้องการกดดันให้ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ในฐานะผู้ดูแลการแข่งขันฟุตบอลโลกออกมาเคลื่อนไหว เพื่อหาทางช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวให้ได้รับการคุ้มครองดูแลที่ดีขึ้น
ขณะที่ ฟีฟ่า เปิดเผยว่า นอร์เวย์ จะไม่ถูกลงโทษจากการออกมาแสดงจุดยืนในครั้งนี้ โดยแถลงการณ์สั้นๆ ว่า “ฟีฟ่า เชื่อในเสรีภาพในการแสดงออกและพลังของฟุตบอลถือเป็นพลังที่ดี”
เออร์ลิง ฮาแลนด์ และทีมชาตินอร์เวย์ สวมเสื้อ RESPECT ร่วมเรียกร้องสิทธิมนุษยชน
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.