จาก 32 ทีม มีเพียงครึ่งเดียวที่จะผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ โกล กางเงื่อนไขการจัดอันดับเมื่อทีมมีแต้มเท่ากันในฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่มที่กาตาร์
ฟุตบอลโลก 2022 ใกล้เข้ามาทุกที อีกไม่นานเราจะได้รู้ว่า จาก 32 ทีมที่ฝ่าฟันมาจนถึงเวทีใหญ่ที่กาตาร์ ใครจะเป็น 16 ทีมที่ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม ไปสู่รอบน็อคเอาท์
ไม่นับกาตาร์ที่เป็นเจ้าภาพ ทุกทีมต่างผ่านเส้นทางรอบคัดเลือกมาอย่างเข้มข้น ไม่ใช่เรื่องแปลกหากสถานการณ์ในบางกลุ่มจะสูสีคู่คี่ จนบางทีมมีคะแนนเท่ากัน ไปจนถึงมีผลต่างประตูได้-เสีย เท่ากันด้วย แต่จะอย่างไร ทุกกลุ่มก็ต้องมีแชมป์และรองแชมป์กลุ่มที่ได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป และต้องมีอีกสองทีมที่เก็บกระเป๋ากลับบ้าน
และไม่เพียงผ่านเข้ารอบแล้วก็จบกันไป การเป็นแชมป์และรองแชมป์กลุ่มยังเป็นเงื่อนไขชี้ชะตาว่าคู่แข่งในรอบ 16 ทีมสุดท้ายนั้นจะยากง่ายเพียงใดด้วย
และนี่คือเงื่อนไขการหาทีมผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ของรอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022 ที่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่จะมี 32 ทีมในรอบนี้ ก่อนจะเพิ่มเป็น 48 ทีมในฟุตบอลโลก 2026
เงื่อนไขเบื้องต้นแน่นอนว่า สองทีมที่มีคะแนนมากที่สุดในแต่ละกลุ่ม หลังจบการแข่งขันทั้งสามนัดในรอบแบ่งกลุ่ม จะเป็นทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป แต่ถ้ามีสองทีม(หรือมากกว่า)ที่คะแนนเท่ากัน ก็ให้จัดอันดับจากผลต่างประตูได้เสีย
แต่ถ้ากลุ่มใดมีทีมที่เท่ากันทั้งคะแนนและผลต่างประตูได้เสีย ก็ให้จัดอันดับจากจำนวนประตูที่ยิงได้เป็นลำดับต่อไป – ดังนั้นยิ่งยิงได้มากก็ยิ่งดี
สรุปโดยเบื้องต้นคือ:
ถ้ายังคงเท่ากันหมดทั้งสามอย่าง ลำดับต่อไปก็คือ head-to-head หรือผลงานในการพบกันเอง ตัวอย่างเช่น ถ้าเม็กซิโกและสวีเดนในกลุ่ม F เกิดมีคะแนน, ผลต่างประตูได้เสีย, ประตูได้ เท่ากันทั้งหมด ทีมที่เป็นฝ่ายชนะในแมตช์ที่พบกันเองก็จะได้อันดับที่ดีกว่า
หากผลการแข่งขันที่พบกันเองยังเสมอกันอีก ก็ให้ขยับไปดูผลต่างประตูได้เสียเฉพาะเกมที่พบกันเอง จากนั้นจึงเป็นจำนวนประตูที่ยิงได้ในเกมที่พบกันเอง
ถึงตรงนี้ถ้ายังคงหาทีมที่ดีกว่าไม่ได้ ก็จะเข้าสู่การคิดคะแนนแฟร์เพลย์ โดยในแต่ละเกม คะแนนแฟร์เพลย์จะถูกหักเป็นรายครั้งเมื่อผู้เล่นได้รับใบเหลือง(-1) ใบแดงจากใบเหลืองที่สอง(-3) ใบแดงตรง(-4) และใบแดงตรงหลังจากได้รับใบเหลือง(-5) ดังนั้นทีมที่ถูกใบเตือนน้อยกว่าก็จะมีคะแนนแฟร์เพลย์ที่ดีกว่า
ถึงตรงนี้ถ้ายังเสมอกันได้อีก FIFA ก็จะใช้วิธีจับสลากดูเลยว่าใครจะได้อยู่ลำดับไหน
สรุปลำดับการพิจารณาได้ดังนี้:
เมื่อทีมผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ โอกาสที่จะเสมอกันจนหาผู้ชนะไม่ได้นั้นเท่ากับศูนย์ทันที ทุกนัดจะต้องมีทีมหนึ่งได้ไปต่อ และทีมหนึ่งตกรอบ
เมื่อเสมอกันในเวลา 90 นาที ผู้ตัดสินจะเป่าหมดเวลาให้พักเล็กน้อย ก่อนจะเรียกกลับมาแข่งในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที แบ่งเป็นครึ่งละ 15 นาที
ถ้าหากผ่าน 120 นาทีแล้วยังเสมอกันอีก ก็จะเข้าสู่การยิงจุดโทษหาผู้ชนะ โดยจะผลัดกันยิงฝ่ายละ 5 คน หากจำนวนประตูฝ่ายใดชนะขาดไปก่อนก็ให้ยุติการแข่งขันได้ทันที
แต่ถ้าผ่าน 5 คนไปแล้วยังเสมอกัน ก็จะเข้าสู่การยิงจุดโทษแบบ sudden death ทีละคน หากครั้งไหนมีหนึ่งทีมยิงเข้า หนึ่งทีมยิงพลาด ก็ให้ทีมยิงเข้าเป็นฝ่ายชนะทันที โดยให้ยิงกันไปจนกว่าจะได้ผู้ชนะ
This website uses cookies.