‘อินทรี’ปีกหัก!คัดบอลโลก ‘เลิฟ’ลาไม่สวยเสียสถิติไร้พ่าย ‘ม้ามืด’โชว์!กำชัยทาบทีมดัง

“อินทรีเหล็ก” ทีมชาติเยอรมนี ทำเรื่องสุดช็อกให้กับแฟนฟุตบอลทั้งโลก เมื่อพลาดท่าพ่ายให้กับ ทีมชาตินอร์ท มาซิโดเนียไปแบบล็อกถล่ม 1-2 ในการเตะบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรปเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

โกรัน ปานเดฟ หัวหอกวัย 37 ปี แบกความเก๋าทำประตูให้อาคันตุกะจากบอลข่านออกนำก่อน 1-0 ก่อนที่ เยอรมนีจะตีเสมอได้จากจุดโทษของ อิลคาย กุนโดกัน ก่อนที่ เอลยิฟ เอลมาส มาซัดนาที 85 ทำให้ มาซิโดเนีย บุกไปพลิกล็อกช็อกชนะ เยอรมนี 2-1

l “เลิฟ” ปิดฉากไม่หรูพังหนแรกคัดบอลโลก

โยอาคิม เลิฟ กุนซือเยอรมนี ที่ประกาศอำลาทีมชาติหลังจากจบยูโร 2020 กลางปีนี้ ยอมรับว่า นักบอลเกิดอาการล้าถึงขีดสุดทำให้ไม่สามารถที่จะไปต่อได้ และเล่นกันได้ผิดพลาดเกินความจำเป็น

“พวกเราเหมือนกับเร่งไม่ขึ้นเลย” เลิฟ กล่าว “เราเล่นผิดพลาดกันเยอะมาก เยอะจนน่าตกใจ อีกทั้งพวกเราทุกคนดูอ่อนล้ามากๆ ไม่มีความสดเท่าไหร่นัก ทำให้ผมผิดหวังอย่างมากจริงๆ อีกทั้งเมื่อคู่แข่งลงไปรับลึกมากๆ เราก็แก้ไขไม่ได้เลย”

เลิฟ กล่าวถึงจังหวะยิงที่พลาดแบบหมูหกสุดๆ ของติโม แวร์เนอร์ ว่า อันที่จริงมันก็น่าผิดหวัง แต่ถ้าเขายิงได้โดนแบบเต็มๆ มันต้องเข้าแน่ เพียงแต่เขาเตะมันไม่โดนแบบไม่น่าเชื่อผมไม่เชื่อว่าเขาจะพลาดลักษณะนี้จริงๆ

การพ่ายแพ้หนนี้ทำให้ เลิฟ คุมทัพเยอรมนีแพ้รอบคัดเลือกนัดแรก ในรอบ 15 ปี การทำงานและนี่เป็นนัดสุดท้ายที่เขาทำงานกับทีมอีกด้วย ขณะเดียวกัน เยอรมนี ต้องแพ้หนแรกนับตั้งแต่แพ้ อังกฤษ 1-5 ในถิ่นตัวเอง 35 เกม หลังจากก่อนหน้านี้พวกเขาชนะมาต่อเนื่อง 18 เกม

l จอมพลิกล็อกที่ไม่ธรรมดา

นอร์ท มาซิโดเนีย หลังจากได้รับเอกราชจากการล่มสลายของยูโกสลาเวีย(เดิม) ได้เข้าร่วมกับวงการฟุตบอลระดับนานาชาติตั้งแต่ปี 1993 แต่ยังไม่เคยเข้าสู่รอบสุดท้ายใดๆได้เลย กระทั่งการเตะเพลย์ออฟยูโร 2020 พวกเขาได้เล่นในกลุ่ม ดี จากกลุ่มทีมที่ดีที่สุดของเนชั่นส์ลีก ระดับล่าง ก่อนจะชนะ โคโซโว ในรอบตัดเชือก 2-1 ก่อนจะเล่นนัดชิง เอาชนะ จอร์เจีย 1-0

ชัยชนะครั้งดังกล่าว ทำให้ นอร์ท มาซิโดเนีย สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลระดับชาติเปนครั้งแรก โดยพวกเขาจะไปเตะรอบสุดท้ายร่วมสาย ซี กับ เนเธอร์แลนด์, ยูเครน และออสเตรีย

l “อาร์เมเนีย” พลิกล็อกกำชัยทุกนัด

หนึ่งในทีมที่สร้างเซอร์ไพรส์ในการแข่งขันบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก นั่นคือ ทีมชาติอาร์เมเนีย ที่เป็น 1 ใน 4 ทีมที่ออกสตาร์ทด้วยการเก็บชัยชนะทั้ง 3 นัดที่ลงสนาม

ทีมดังอย่าง อังกฤษ เก็บชัยชนะนัดที่ 3 หลังจากเชือด โปแลนด์ ลงได้ 2-1 ถือว่าทำได้ตามเป้าหมาย เช่นเดียวกับอิตาลี แชมป์ 4 สมัย ที่ชนะได้ 3 เกมติดรวมไปถึง เดนมาร์ก ที่เก็บได้ 9 คะแนนเต็มๆ แต่ อาร์เมเนีย ถือว่าเซอร์ไพรส์ พวกเขาชนะได้ 3 เกมรวดเริ่มจากบุกชนะ ลิกเตนสไตน์ 1-0 โดยที่ไม่มีใครสนใจพวกเขาเท่าไหร่นัก เพราะกว่าจะได้ประตูชัยต้องรอให้ โนอาห์ ฟรอมเมลต์ยิงเข้าประตูตัวเองให้อีกต่างหาก

กระทั่งนัดที่สอง พวกเขาบดชนะ ไอซ์แลนด์ 2-0 จาก ติกราน บาร์เซก์เฮียน กับ โคเรน บายราเมี่ยน

ล่าสุด พวกเขาเฉือนชนะ โรมาเนีย สุดสะเด่า 3-2 โดยได้ประตูชัยจากจุดโทษในนาทีที่ 89 จากการยิงของ บาร์เซก์เฮียนในการเตะที่วานซเก้น ซาร์กเซี่ยน รีพับลิกัน สเตเดี้ยม

ผลงานทุกนัด 8 เกมหลังสุดพวกเขาไม่แพ้ใครเลย และชนะได้ถึง 5 นัดติดต่อกัน ซึ่งการชนะติดต่อกันในบอลโลก รอบคัดเลือกนี้ พวกเขาไม่มีดาวเตะตัวสำคัญอย่าง เฮนริคห์ มาคิตาเรี่ยนหรือ มาคิตายาน อดีตแข้งดังของแมนยูฯ และอาร์เซนอลที่ปัจจุบันอยู่กับ โรม่า เนื่องจากกัปตันทีม วัย 32 ปี รายนี้มีอาการบาดเจ็บนั่นเอง

l บอลโลกพักยาว!เจอกันใหม่อีกครึ่งปี

หลังจากดวลแข้งกันเรียบร้อย 3 นัด ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป จะกลับมาดวลแข้งกันอีกครั้งในเดือนกันยายนนี้ หรืออีก 6 เดือนเลยทีเดียว

ในการดวลแข้งโซนยุโรปปีนี้ มีทั้งหมด 55 ประเทศเข้าร่วมและแบ่งการแข่งขันออกเป็น 10 สาย เพื่อชิงโควตา 13 ทีมเพื่อเข้ารอบต่อไป ทีมแชมป์ 10 ทีม จาก 10 กลุ่ม จะได้เข้ารอบแบบ “อัตโนมัติ” จากนั้นการลุ้นแบบ “อัตโนนาโถ” จะเริ่มขึ้น

รองแชมป์กลุ่ม 10 ทีม จะมาเล่นเพลย์ออฟ กับอีก 2 ทีมที่มีอันดับดีที่สุดของเนชั่นส์ลีก จากนั้น 12 ทีม จะถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม เตะน็อกเอาท์ภายในกลุ่มตัวเองเพื่อหาแชมป์ทั้ง 3 กลุ่ม เข้าสู่รอบสุดท้ายต่อไป