ใช้สัตว์ก็มี ใช้สีก็มา – โกล เผยฉายาแท้จริงของ 32 ทีมชาติที่จะลงดวลกันในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เดือนพฤศจิกายนนี้ที่กาตาร์
เวทีใหญ่ที่สุดของโลกลูกหนังเดินทางมาถึงอีกครั้งในปีนี้ ฟุตบอล, ผู้คน ไปจนถึงศิลปะวัฒนธรรม จะข้ามน้ำข้ามทะเลจากทั่วโลกมาพบกัน ในช่วงเวลาหนึ่งเดือนแสนพิเศษ เมื่อ 32 ทีมชาติจะดวลกันเพื่อไปให้ถึงจุดสูงสุดของโลก
ทีมฟุตบอลเกือบทุกทีมในโลกล้วนมีฉายาที่เผยถึงรากเหง้าและตัวตน ฉายาเหล่านี้มักมีเรื่องราวเบื้องหลังที่เชื่อมโยงหัวใจของทั้งทีมและแฟนบอลเอาไว้ เหล่าผู้บรรยายและสื่อมวลชนต่างรับเอาฉายาเหล่านี้ไปใช้เรียกขาน
โกล รวบรวมฉายาและที่มาของทั้ง 32 ทีมชาติในฟุตบอลโลก 2022 เอาไว้ที่นี่
โทนี ฮอร์สเตด ผู้สื่อข่าวจากซิดนีย์ คือคนแรกที่จับเอาคำว่า soccer และ kangaroo(จิงโจ้) มาผสมกันแล้วใช้เรียกขานทีมชาติออสเตรเลีย ตั้งแต่ยุคสงครามเวียดนาม และแพร่หลายจนเป็นที่เข้าใจกันทั่วในฟุตบอลโลก 1974 เป็นต้นมา
แม้จะพยายามสร้างฉายาใหม่ๆ กันมาหลายรอบ ไม่ว่าจะเป็น “ชีราน เอ อิราน(สิงโตอิหร่าน)”, “ใจสิงห์”, “เจ้าชายเปอร์เซีย” “ชีตาห์” แต่สุดท้าย “ทีม เมลลี” ที่แปลว่า ‘ทีมชาติ’ ในภาษาเปอร์เซีย ก็ยังเป็นชื่อที่คุ้นเคยที่สุดอยู่เหมือนเดิม
สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นเริ่มใช้ชื่อ ซามูไร บลู เป็นฉายาของทีมชาติอย่างเป็นทางการตั้งแต่ช่วงปลายปี 2009 ตามสีเสื้อทีมเหย้า ไม่ได้ผูกโยงกับ ‘ยาตะการาสุ’ หรือ กาสามขา สัตว์อัศจรรย์ที่อยู่บนตราสัญลักษณ์
เจ้าภาพหน้าใหม่ในครั้งนี้มีฉายา “อัล อันนาบีย์” ที่แปลว่าสีแดงเข้ม, แดงชาด ในภาษาอาหรับ ตามสีธงชาติของพวกเขา แต่สื่อมวลชนทั่วโลกดูจะถนัดใช้ “เดอะ มารูน(The Maroon)” ที่แปลว่าสีแดงเข้มในภาษาอังกฤษเสียมากกว่า
แม้จะชุดเหย้าจะสีขาว แต่ฉายาที่ได้รับความนิยมสูงสุดของทีมชาติซาอุดิอาระเบียนั้นคือ “อัล อัคดาร” ที่แปลว่า ‘สีเขียว’ ตามสีธงชาติแทน นอกจากนี้ยังมี “อัสซุกูร อัล อราบิยาห์(เหยี่ยวอาหรับ)” และ “อัสซุกูร อัล อัคดาร(เหยี่ยวเขียว)” ที่สื่อไทยรับมาแปลงเป็น ‘เหยี่ยวมรกต’ และใช้กันมานาน
ย้อนกลับไปต้นยุค 90 ชาวเกาหลีใต้เรียกทีมตัวเองว่าปีศาจแดง ตามสีเสื้อทีมเหย้า ก่อนจะมีการปรับเสื้อเหย้าเป็นสีขาวในปี 1994 และเริ่มชูฉายา “แทกุก จอนซา(นักรบแทกุก)” ซึ่งแม้เสื้อเหย้าจะกลับไปใช้สีแดงในปีต่อมา แต่นักรบแทกุกก็กลายเป็นฉายาที่ติดปากตั้งแต่นั้น หมุนมาช่วงต้นยุค 2000 สมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้เปลี่ยนมาใช้ตราสัญลักษณ์เสือโคร่งที่กลายเป็นภาพจำจนทุกวันนี้ แต่ถึงอย่างนั้น ฉายา “เอเชีย โฮรังกี(เสือโคร่งเอเชีย)” ก็ยังเบียดความนิยมของ “นักรบแทกุก” ไม่ลง
ทีมชาติแคเมอรูนใช้ฉายาว่า Les Lions Indomptables เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า ‘สิงโตทรหด’
ทีมชาติกานาใช้ดาวดำบนธงชาติของพวกเขามาเป็นฉายาแบบตรง ๆ เข้าใจง่าย
สิงโตแอตลาส มีอีกชื่อว่า สิงโตบาร์บารี เป็นสัตว์ที่ทีมชาติโมร็อคโคใช้เป็นสัญลักษณ์ของทีมมายาวนาน แต่น่าเสียดายที่สิงโตพันธุ์นี้ไม่หลงเหลืออยู่ในธรรมชาติแล้ว มีอยู่ในสวนสัตว์เท่านั้น เพราะถูกล่าอย่างหนักตั้งแต่สมัยยุคอาวุธปืนเฟื่องฟู
นับตั้งแต่แจ้งเกิดในฟุตบอลโลก 2002 เซเนกัลก็เป็นที่จดจำในระดับนานาชาติทันที แม้หลังจากนั้นจะแทบมาไม่ถึงฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอีกเลยก็ตาม ส่วนฉายานั้นพวกเขาเลือกใช้สัตว์เจ้าป่าคล้ายชาติแอฟริกันอีกหลายชาติ ส่วน ‘Teranga’ นั้นเป็นภาษาถิ่นที่มีความหมายคร่าวๆ ว่า ‘แดนมิตรภาพ’
คาร์เธจ(Carthage)คือชุมชนเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยอารยธรรมโบราณมากมาย ทีมชาติตูนิเซียเลือกใช้นกอินทรีหัวล้านเป็นสัญลักษณ์ประจำตัว และฉายาของพวกเขา
ทีมชาติแคนาดาเลือกใช้สีแดงของใบเมเปิลในธงชาติมาเป็นทั้งสีเสื้อชุดเหย้า และฉายาของทีม
คอสตา ริก้า สามารถเรียกแบบย่อ ๆ ในภาษาสเปนว่า ‘ติโกส’ ซึ่งก็กลายมาเป็นฉายาของทีมชาติไปด้วย นอกจากนี้ยังมี “ลา เซเล(คำย่อของคำว่า ทีมชาติ)” และ “ลา ตริโกลอร์(สามสี)” อีกสองฉายาที่นิยมใช้กัน
เม็กซิโกเป็นอีกชาติที่ธงชาติมีสามสี และใช้คำว่า ‘สามสี’ มาเป็นฉายาตรง ๆ
Albi แปลว่าสีขาว Celeste แปลว่าสีท้องฟ้า ฉายา ‘ฟ้าขาว’ ของทีมชาติอาร์เจนตินาจึงมาจากสีธงชาติและสีเสื้อชุดเหย้าแบบตรง ๆ นั่นเอง
Seleção ในภาษาโปรตุกีส แปลตรง ๆ เทียบกับภาษาอังกฤษได้ว่า ‘ผู้ถูกเลือก’ แต่ในบริบทของชาวบราซิล คำนี้จะแปลว่าทีมฟุตบอล อันที่จริงพวกเขาเรียกทีมฟุตบอลทุกทีมว่า Seleção แต่ถ้าเป็นทีมชาติก็จะเรียกว่า A Seleção ที่เหมือนการเติม The ไปข้างหน้าในภาษาอังกฤษ
เป็นอีกทีมในสมาคมชาวสามสี สำหรับทีมชาติเอกวาดอร์ ฉายา “La Tri” ของพวกเขานั้นก็หมายถึงสามสีนั่นเอง
ทีมชาติอุรุกวัยใช้ฉายาตรงไปตรงมาว่า “สีฟ้า” ส่วนสไตล์การเล่นถึงลูกถึงคนของพวกเขาในยุคหนึ่งนั้นทำให้ได้ฉายา ‘จอมโหด’ จากสื่อไทยไปด้วย
ย้อนกลับไปในปี 1905 ผู้สื่อขาวเนเธอร์แลนด์เขียนบรรยายถึงผู้เล่นเบลเยียมสามคนว่า “เล่นอย่างกับปีศาจ” บวกกับชุดเหย้าสีแดง คำว่า ‘ปีศาจแดง’ เลยกลายมาเป็นฉายาที่ชาวเบลเยียมใช้เรียกขานทีมชาติของพวกเขาตั้งแต่นั้น ในขณะที่เรียกตัวเองว่า 1985 ซึ่งเป็นปีก่อตั้งของสมาคมฟุตบอลเบลเยียม
ฉายาของทีมชาติโครเอเชียก็คือ Kockasti หรือ Chequered ในภาษาอังกฤษ ที่แปลว่า ‘ตาหมากรุก’ ซึ่งเป็นลวดลายธงชาติของพวกเขานั่นเอง
ฉายาของทีมชาติเดนมาร์กในภาษาแดนิชคือ De Rød-Hvide(เดอ เริด-ฮวีด) ที่แปลตรง ๆ ว่า แดง-ขาว ตามสีธงชาติของพวกเขา
สิงโตสามตัวบนโลโก้คือที่มาของฉายาทีมชาติอังกฤษ คนไทยเริ่มคุ้นเคยกับพวกเขาตอนที่คว้าแชมป์โลกในปี 1966 ‘สิงโตคำราม’ จึงกลายมาเป็นฉายาในที่สุด
ไม่ต้องอธิบายให้ยืดยาว ทีมชาติฝรั่งเศสเรียกตัวเองด้วยฉายาที่แปลว่า ‘สีน้ำเงิน’ มาอย่างยาวนาน
ฟุตบอลเยอรมันคือทีมเวิร์ค ฉายาที่พวกเขาใช้เรียกทีมชาติก็คือคำว่า Die Mannschaft ที่แปลว่าตรง ๆ ว่า ‘ทีมงาน’ นอกจากนี้ยังมี “Nationalelf” ที่แปลเป็นอังกฤษได้ว่า National Eleven เป็นอีกฉายาที่นิยมเรียกกัน
นอกจาก Oranje ที่แปลว่าสีส้มแล้ว ทีมชาติเนเธอร์แลนด์สยังมีฉายาอื่นๆ อย่าง The Flying Dutchman หรือ Clockwork Orange อีกด้วย
ฉายาของทีมชาติโปแลนด์คือ Biało-czerwoni(เบียโว-แชร์โวนี) ดูยาว ๆ แต่ที่จริงแค่แปลว่า ‘แดง-ขาว’ นอกจากนี้ยังมีอีกฉายาคือ Orły(ออร์วี)ซึ่งแปลว่า ‘นกอินทรี’ เป็นอันครบทุกส่วนในตราทีมชาติ
โปรตุเกสคือชาติที่มีประวัติศาสตร์ของการเดินเรือบุกเบิกแผ่นดินใหม่มานับร้อยปี ทำให้นอกจากฉายา “เซเลเซา” เหมือนชาติอื่นๆ ที่ใช้ภาษาโปรตุกีส พวกเขายังมี Os Navegadores(โอส นาเวกาโดเรส) ที่แปลว่า ‘คนเบิกทาง’ เป็นอีกฉายาหนึ่งด้วย
ทีมชาติเซอร์เบียเป็นอีกทีมที่นำองค์ประกอบของทีมชาติมาเป็นฉายา โดย Орлови ที่แปลว่า ‘นกอินทรี’ นั้นมีที่มาจากนกอินทรีสองหัวที่อยู่ในธงชาติ
แม้ La Roja(ลา โรฆา) จะแปลออกมาตรง ๆ แค่ว่า ‘สีแดง’ ไม่ดุเดือดอย่างฉายาไทยที่เรียกกัน “กระทิงดุ” แต่สเปนยังมีอีกฉายาที่ดุเดือดขึ้นมาอีกนิดว่า La Furia Roja(ลา ฟูริยา โรฆา) ที่พอจะแปลได้ว่า “แดงเดือด”
ชาวสวิสเรียกทีมชาติของพวกเขาสั้น ๆ ว่า “นาติ(Nati)” ที่ย่นมาจาก National Team นอกจากนี้ยังมีอีกฉายาว่า “Rossocrociati(รอสโซโครชิอาติ)” ที่แปลว่า “กางเขนแดง” ซึ่งอยู่บนธงชาตินั่นเอง
เมื่อมีมังกรอยู่บนทั้งธงชาติและตราสัญลักษณ์ทีม ฉายาของเวลส์นั้นจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก The Dragons
แม้จะมีอีกฉายาว่า The Yanks แต่ Star Stripes ซึ่งหมายความถึง “ธงดาวริ้ว” หรือธงชาติสหรัฐอเมริกา ก็ยังเป็นฉายาหลักของทีมลุงแซม
This website uses cookies.