Football Sponsored

สองโค้ชดังแนะยช.ดูวิธีการเล่นทีม-แข้งดังจากศึกฟุตบอลโลก

Football Sponsored
Football Sponsored

 “โค้ชง้วน” สุรชัย จตุรภัทรพงศ์  เผยว่าสำหรับฟุตบอลโลก 2022 ตนเองมองว่าทีมแชมป์ น่าจะหนีไม่พ้นชาติบรรดายักษ์ใหญ่หน้าเดิมๆ อาทิ บราซิล, อาร์จนตินา, เยอรมนี, สเปน, อังกฤษ, โปรตุเกส, ฝรั่งเศส และหากเจาะแต่ละกลุ่มว่าใครจะเข้ารอบ มองว่า กลุ่มเอ คือ เนเธอร์แลนด์ กับ กาตาร์, กลุ่มบี อังกฤษ กับ อิหร่าน, กลุ่มซี อาร์เจนตินา กับ เม็กซิโก, กลุ่มดี ฝรั่งเศส กับ เดนมาร์ก, กลุ่มอี สเปน กับ เยอรมนี, กลุ่มเอฟ เบลเยียม กับ โครเอเชีย, กลุ่มจี บราซิล กับ เซอร์เบีย และกลุ่มเฮช โปรตุเกส กับ เกาหลีใต้ โดยมองว่า เกาหลีใต้ มีศักยภาพดี จะเบียดผ่าน กานา, อุรุกวัย ได้

“โค้ชง้วน” ยังกล่าวว่า สำหรับนักเตะและเยาวชนไทย เชื่อว่าจะประโยชน์จากการชมฟุตบอลโลก 2022 ด้วย โดยนอกจากจะได้ชมเพื่อความบันเทิง หากตั้งใจดู ก็จะได้เห็นวิธีการเล่น และทักษะระดับโลกของนักเตะในแต่ละทีม ทั้งทักษะความสามารถเฉพาะตัว การยืนตำแหน่งว่ายืนกันอย่างไร เล่นกันอย่างไร  จุดนี้ก็สามารถนำมาพัฒนาตัวเอง ได้ 

ด้าน “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ เฮดโค้ช ชลบุรี เอฟซี แสดงความเห็นว่า ฟุตบอลโลก 2022 ไม่ใช่ที่ของซินเดอเรลลา และไม่น่าจะมีม้ามืดก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์ เพราะทุกทีมล้วนแข็งแกร่ง และเป็นของจริง กว่าจะเข้ามาแข่งขันได้ โดยทีมเต็ง คือ บราซิล ที่ฟอร์มอุ่นเครื่องดี ราฟินญา, วินิซิอุส จูเนียร์ ทำผลงานดี  แสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีแค่ เนย์มาร์ นอกจากนี้ ยังมี อาร์เจนตินา, เบลเยียม, เยอรมนี ที่มองข้ามไม่ได้ ส่วนนักเตะที่น่าจับตาคือ วินิซิอุส จูเนียร์, เควิน เดอ บรอยน์ ของเบลเยียม กระนั้นก็ตาม ฟุตบอลลีกก็จะเป็นตัวแปรว่านักเตะจะผ่านมาแบบสมบุรณ์แค่ไหน ส่วนทีมเอเชีย ยังมองว่าเต็มที่จะมีเข้าไปรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ที่มาของภาพ :

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.