Football Sponsored

เดือดจัด “มาร์ซิยาล” จวก 2 อดีตกุนซือแมนยูฯ เผยมีแค่คนเดียวที่ประทับใจ

Football Sponsored
Football Sponsored

วันที่ 11 ก.ย. 65 อองโตนี มาร์ซิยาล กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสของ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาสับแหลก โชเซ มูรินโญ และ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ สองอดีตกุนซือของปิศาจแดง ที่มีส่วนทำให้เขาต้องเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากกับการค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟเฟิร์ด แต่ชื่นชม หลุยส์ ฟาน กัล ที่คอยให้แนะนำในเรื่องต่างๆ เป็นอย่างดี

พูดถึงช่วงร่วมงานกับ มูรินโญ

“มันเริ่มต้นด้วยเรื่องของเบอร์เสื้อ ช่วงวันหยุดเขาส่งข้อความมาถามผมว่าอยากเปลี่ยนมาใส่เบอร์ 11 มั้ย แล้วเขาก็อธิบายให้ฟังว่ามันสุดยอดมากนะ เพราะมันเป็นเบอร์ของ ไรอัน กิกส์ ตำนานของทีม จากนั้นผมบอกเขาไปว่าผมเคารพ กิกส์ มากๆ แต่ผมอยากใช้เบอร์ 9 ต่อไปมากกว่า แต่พอกลับมาที่สโมสร ผมเห็นเสื้อตัวเองกับเบอร์ 11 มูรินโญไม่ให้เกียรติผมเลย แล้วพอฤดูกาลต่อมา ผมฟอร์มแจ่มที่สุดในทีมช่วงต้นฤดูกาล แต่เขาก็ไปดึง อเล็กซิส ซานเชซ เข้ามา และผมก็แทบไม่ได้ลงเล่นอีกเลย มันเป็นปีของฟุตบอลโลก และมันทำให้ผมเสียหายอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฝรั่งเศสเป็นแชมป์โลก ซึ่งผมควรจะอยู่ตรงนั้น”

พูดถึงช่วงร่วมงานกับ โซลชาร์

“ที่ผมได้รับบาดเจ็บเป็นประจำ หลายคนไม่รู้หรอกว่าผมแทบไม่สามารถเร่งสปีดตัวเองได้ในช่วงสี่เดือนหลังโควิด แต่โค้ชบอกผมว่าเขาต้องการผม ดังนั้นผมก็เลยลงเล่น แต่เกมการเล่นของผมถ้าเร่งสปีดไม่ได้ มันก็ลำบาก แล้วจากนั้นผมก็โดนวิจารณ์ยับ โค้ชก็ไม่เคยใส่ใจที่จะไปอธิบายกับสื่อ แล้วสุดท้ายผมก็บาดเจ็บ แล้วพอผมกลับมา ผมก็ไม่ได้ลงเล่นอีกเลย ผมรับไม่ได้ ผมรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม เมื่อคุณถูกขอให้เสียสละเพื่อทีม แต่สุดท้ายคุณก็โดนทิ้ง สำหรับผมมันเกือบจะใช้คำว่าทรยศหักหลังได้เลย”

พูดถึงช่วงร่วมงาน หลุยส์ ฟาน กัล

“ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ หลุยส์ ฟาน กัล ในฤดูกาลแรก ผมชอบที่จะเรียนรู่ และเมื่อเขาให้ผมดูวิดีโอการเล่นของผมเมื่ออธิบายสิ่งต่างๆ กับผม นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดเลย มันมีตอนที่ผมยิงได้สองประตู และเขาดูวิดีโอเพื่อแนะนำผม ผมบอกเขาว่าผมยิงได้ 2 ลูก แล้วปัญหาคืออะไร? เขาต้องการคุยกับผมเกี่ยวกับการวิ่ง การเคลื่อนที่ ผมบอกว่าผมเข้าใจแล้ว และเขาก็บอกว่า เขาชอบคาแรกเตอร์ของผม”

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.