Football Sponsored

“กรธวัช”สร้างประวัติศาสตร์ซิวตั๋วอีเว้นติ้งลุยขี่ม้าชิงแชมป์โลก – Siamsport

Football Sponsored
Football Sponsored

“นัท” กรธวัช สำราญ นักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทย ชุดโอลิมปิก”​โตเกียวเกมส์” ประเภทอีเว้นติ้ง ดีกรีเหรียญทองแดง อชก. 18 สร้างประวัติศาสตร์ หลังเป็นนักกีฬาอีเว้นติ้งคนแรกที่คว้าตั๋วลุยศึกชิงแชมป์โลก 2022 ที่อิตาลี

หลังจากที่ 3 นักกีฬาขี่ม้าแอนดรูร้านของไทย ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์คอลิฟายคว้าตั๋วเข้าร่วมแข่งขัน FEI World Endurance Championship 2022 ระหว่างวันที่ 19-23 ต.ค. 65 ได้สำเร็จ

ล่าสุด” เจ้านัท” กรธวัช สำราญ นักกีฬาขี่ม้าอีเว้นติ้ง ชุดโอลิมปิก 2022 “โตเกียวเกมส์” ดีกรีเหรียญทองแดงทีมอีเว้นติ้ง อชก. 18 ลงแข่งขันประเภทอีเว้นติ้งในรายการ CCI*4-NC- S Le Granf Complet Haras du Pin ที่ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 12-14 ส.ค.54 ซึ่งเป็นรายการสุดท้ายของการคอลิฟายเข้าร่วมแข่งขัน FEI World Eventing Championship 2022 ระหว่างวันที่ 14-18 กันยายน 2565 ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี

สำหรับการแข่งขันอีเว้นติ้ง จะแข่งทั้งหมด 3 อีเว้นต์ประกอบด้วยศิลปการบังคับม้า, ครอสคันทรี และ กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง โดยนักกีฬาจะต้องใช้ม้าตัวเดียวตลอดการแข่งขันทั้ง 3 อีเว้นต์ และ​กรธวัช จบด้วยอันดับที่ 54 จากนักกีฬากว่า 100 คน มีแต้มเสียรวม 48.6 คะแนน เสียจากศิลปการบังคับ 43.8 คะแนน เสียจากครอสคันทรี 11.2 เนื่องจากใช้เวลาเกินไป 6.49 นาที และ เสียจาก กระโดดข้ามเครื่องกีดขาง 4 คะแนน จากการเตะเครื่องกระโดด 1 เครื่อง และเสียคะแนนจากการใช้เวลาเกิน 0.8 วินาที ส่งผลให้ กรธวัช คว้าตั๋วเข้าร่วมแข่งขันชิงแชมป์โลกได้สำเร็จและเป็นนักกีฬาอีเว้นติ้งคนแรกของไทยที่ผ่านเข้าไปแข่งขันชิงแชมป์โลกได้สำเร็จ เนื่องจากแต้มเสียแต่ละอีเว้นต์ที่กรธวัชทำได้นั้นเป็นไปตามกติกาการคอลิฟาย แข่งขัน FEI World Eventing Championship 2022

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.