Football Sponsored

ลิเวอร์พูลสอนให้เดอะค็อปเข้าใจถึงชีวิต – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

ไม่แปลกหรอกว่าทำไมเดอะค็อปถึงมีความสุข

    แฟนบอลลิเวอร์พูลไม่เพียงสุขที่ทีมรักไล่จี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากที่เคยตามหลังไกลสุดกู่ 14 คะแนนมาเหลือแค่แต้มเดียว

    ไม่เพียงสุขที่ความหวังซึ่งแทบจะถอดโยนทิ้งไปแล้วกลับมาเรืองรองอีกครั้ง ใช้คำนี้ได้เลยเพราะถึงตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในมือตัวเองแล้ว

    แต้มอาจจะตามอยู่ก็จริง แต่โอกาสอยู่ในมือ ถ้าชนะทุกเกมที่เหลืออยู่ก็จะคว้าแชมป์ทันที เพราะหนึ่งในนั้นคือเกมที่ต้องเจอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอง

    ไม่เพียงสุขที่ได้เห็น หลุยส์ ดิอาซ นักเตะใหม่เล่นได้ดี ไม่เพียงสุขที่ได้เห็น ดีโอโก้ โชต้า กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ กลับมาพังประตูได้

    ไม่เพียงสุขที่ได้เห็น ติอาโก้ อัลกันตาร่า กับ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ทำแอสซิสต์ เกมรับเก็บคลีนชีต หรือ อลิสซง เบ็คเกอร์ ป้องกันระดับโลกเป็นจุดเปลี่ยนช่วยทีมอีกครั้ง

    แต่พวกเขาสุขในทุกอย่างที่เป็นลิเวอร์พูล บรรยากาศแห่งความกลมเกลียว สปิริตอันแรงกล้าและการต่อสู้อย่างไม่ลดละ

    นักเตะของพวกเขาไม่เคยยอมแพ้เลย..

    กระทั่งแฟนบอลเองที่หลายคนยอมยกธงขาวไปแล้ว ยอมให้กับสถานการณ์ที่นำพา ก็ตอนนั้นแมนเชสเตอร์ ซิตี้เก่งขนาดนั้น แล้วก็ตอนนั้นทีมของเราหัวทิ่มหัวตำ

    รู้ทั้งรู้นั่นแหละว่าฤดูกาลยังไม่จบ ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้เสมอ แต่มันยากที่จะเชื่อว่าซิตี้จะพลาดแล้วเราจะไม่พลาดจนหักลบกันในระดับที่สามารถทำให้ไล่ตามทันหรือแซงได้

    มันไม่น่าเชื่อและไม่กล้าเชื่อ รู้ทั้งรู้ว่าอย่าเพิ่งด่วนตัดสินอะไร แต่ก็นั่นแหละ จะให้เชื่อในตอนนั้นมันเชื่อไม่ลงจริงๆ นี่นา

    ถึงตอนนี้พวกเขาสุขเพราะสามารถกลับมาเชื่อได้อีกครั้ง ชัยชนะยากๆ ตลอด 2-3 เกมหลังรวมทั้งเกมหืดจับกับอาร์เซน่อลยืนยันอย่างนั้น และคนที่ทำให้พวกเขาเชื่อก็ยังคงเป็นทีมรักที่พวกเขาทุ่มเทแรงกายแรงใจให้นั่นแหละไม่ใช่ใครอื่น

    เหมือนเพื่อนรักเดินเข้ามาตบบ่าตบไหล่แล้วบอกว่า “เป็นไงมึง หายใจเสียรึยัง เห็นมั้ยว่าพวกเรายังไปไหว เอาเว้ย มาลุยกันต่อเถอะ กูยังต้องการมึงอยู่นะ”

    คงเป็นธรรมชาติของการเชียร์ฟุตบอลนั่นแหละครับ เราใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมากกว่าอดีตหรืออนาคตจนคิดไปเองว่าสิ่งที่กำลังเห็นอยู่คือความแน่นอน เป็นบทสรุปแน่ๆ ทั้งที่ความจริงแล้วใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง

    อนิจจังแม้กระทั่งความหวังที่เรืองรองขึ้นมาอีกครั้งนี้แหละ ตอนจบอาจไม่สดใสเหมือนที่มันกำลังเป็นก็ได้ ไม่มีใครรู้หรอก

    แต่เหนืออื่นใดลิเวอร์พูลทำให้แฟนบอลของตัวเองได้รู้อีกครั้งว่า เรื่องของการแย่งแชมป์หรือทำอันดับในลีก อย่าเพิ่งด่วนตัดสินอะไรเด็ดขาด ลองย้อนกลับไปสำรวจความรู้สึกของตัวเองตอนหลุดวงโคจรท็อปโฟร์เมื่อฤดูกาลที่แล้วก็ได้ มีใครด่วนตัดโอกาสไปแชมเปี้ยนส์ ลีกของทีมไปแล้วบ้าง แล้วบทสรุปเป็นอย่างไร

    ฤดูกาลนี้ก็เช่นกัน ตอนที่ตามซิตี้ 14 แต้มมีใครโยนความหวังทิ้งไปแล้วบ้าง.. แล้วตอนนี้เป็นอย่างไร

    เรื่องนี้ผมคิดว่ามันไม่ใช่แค่เกมฟุตบอลหรอกนะครับ หากยังเป็นทุกๆ เรื่องในชีวิต ใดๆ ล้วนอนิจจังทั้งสิ้น ความแน่นอนที่สุดคือความไม่แน่นอน อย่าเพิ่งปักใจเชื่อในสิ่งใดก็ตามว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นแน่อย่างนี้แน่

    แฟนลิเวอร์พูลคงมีความสุขที่สุดท้ายก็เป็นทีมของพวกเขาเองที่ทำให้เห็นว่า จงกล้าที่จะเชื่อ แม้ในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อที่สุด

ขอให้กล้าที่จะเชื่อ แม้ตามหลังทีมอย่าง เอซี มิลาน 3 ประตูในครึ่งแรก
ขอให้กล้าที่จะเชื่อ แม้จะแพ้บาร์เซโลน่ามาก่อน 3 ประตูที่คัมป์ นู
ขอให้กล้าที่จะเชื่อ ว่าเราจะดีกว่าเดิมได้อีกแม้เก็บ 97 คะแนนยังไม่ได้แชมป์
ขอให้กล้าที่จะเชื่อ ว่าเราไปต่อได้แม้เสีย เฟร์นานโด ตอร์เรส เสีย หลุยส์ ซัวเรซ เสีย ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
ขอให้กล้าที่เชื่อ ว่าเราดีพอ แม้จะไม่ได้เสริมนักเตะเพิ่มเลย
ขอให้กล้าที่จะเชื่อเถิด ขอให้กล้าเดินไปด้วยกันแม้จะต้องฝ่าพายุโหมกระหน่ำ
Walk on.. through the wind
Walk on.. through the rain

    หรือเสื้อตัวนั้นของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์.. Never give up ที่บ่งบอกความเป็นลิเวอร์พูลอย่างที่สุด

    และแน่นอนครับ ถึงตรงนี้แล้ว ลิเวอร์พูลก็ยังบอกกับเดอะค็อปว่า ขอให้กล้าที่จะเชื่อเถิด แม้จะต้องเสียซาลาห์หรือกระทั่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ ไปในอนาคต

    เสีย เจอร์เก้น คล็อปป์..แค่ได้ยิน เดอะค็อปก็คงสะท้าน

    แต่มันจะเป็นอย่างนั้นแน่ๆ ครับไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไม่ช้า.. ก็เร็ว

    ผู้คนผ่านเข้ามาและผ่านไป สโมสรต่างหากที่ยังคงอยู่ แต่สิ่งหนึ่งที่เราสามารถวางใจได้จากที่เห็นการทำงานตลอดเวลาที่ผ่านมาของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็คือ เขารักและหวังดีกับสโมสรอย่างจริงใจ มุมานะทำงานอย่างบ้าคลั่งที่สุดเพื่อพาลิเวอร์พูลกลับมายิ่งใหญ่ให้ได้

    เขาทำได้ ทำสำเร็จ และยังคงทำงานอย่างบ้าคลั่งไม่หยุดต่อไป กวาดตามองไปในทีมเวลานี้ก็ได้ เราเริ่มเห็นการเปลี่ยนผ่านนักเตะสู่อนาคตที่รออยู่บ้างแล้ว

    ทุกอย่างดำเนินไปตามแผนงานระยะยาวที่วางเอาไว้ มันอาจไม่ทันใจใครอยู่บ้าง แต่อย่าห่วงเลย เขาและทีมงานรู้ดีที่สุดว่ากำลังทำอะไร

    ผมมั่นใจว่าบุคลากรทรงคุณค่าอย่างคล็อปป์ ถ้าจะต้องจากสโมสรแห่งนี้ไป เขาจะไปอย่างสบายใจด้วยวางรากฐานไว้ให้กับทีมอย่างหนักแน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว สามารถวางใจได้แล้ว

    ขอให้กล้าที่จะเชื่อเถิด..

    ผ่านมาถึงตรงนี้ จะไม่ให้เดอะค็อปมีความสุขได้อย่างไรเล่าครับ 
แชมป์ลีก คัพ สมัยที่ 9
ไล่ล่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในพรีเมียร์ลีก
รอเตะรอบ 8 ทีมสุดท้ายเอฟเอ คัพ

    และผลจับสลากยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับโปรแกรมเบาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก็ยังอุตส่าห์เข้ามาหาเหมือนเสก

    แน่นอนครับ เราดูแคลนเบนฟิก้าไม่ได้และรอบนี้ไม่ว่าเจอใครก็หนักทั้งนั้น แต่หวดกับทีมเหยี่ยวลิสบอนก็ยังมีโอกาสพลาดน้อยกว่าเจอทีมตัวเต็งที่อุดมไปด้วยพ่อค้าแข้งชั้นนำทั้งหลาย ทั้งยังได้กลับมาเตะที่แอนฟิลด์ในนัดที่สอง..

    เลยกลางเดือนมีนาคมมาแล้ว ลิเวอร์พูลยังมีลุ้นแชมป์ทั้ง 4 รายการ ยังอยู่บนเส้นทางที่จะสร้างประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน

    ทั้งๆ ที่เคยถอดใจยอมแพ้ไปแล้ว

    ทั้งๆ ที่เคยมองเห็นภารกิจอยู่ตรงหน้าว่ามันไม่ไหว.. ไม่ไหวหรอก ไม่ไหวแน่ๆ

    ลิเวอร์พูลสอนให้เดอะค็อปเข้าใจถึงชีวิต จงกล้า และอย่าละทิ้งความหวังแม้จะริบหรี่เหลือทน

    จงเชิดหน้าขึ้นสู้อุปสรรคทั้งปวง

    แค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ทำหน้าที่ของตัวเองให้ลุล่วง ซื่อสัตย์กับมัน รับผิดชอบมัน แล้วบทสรุปจะเป็นอย่างไรค่อยมาคุยกันอีกที

    ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เราจะสามารถยืดอกได้อย่างเต็มภาคภูมิว่าเราทำมันเต็มที่แล้ว ไม่ใช่มานั่งเสียดายทีหลังว่ารู้อย่างนี้ตอนนั้นไม่น่าถอดใจเลย..

    ความสุขของเดอะค็อป.. อยู่ที่การได้เห็นอะไรอย่างนี้นี่แหละ

    ก้าวเดินต่อไป ไม่เคยยอมแพ้

    ก้าวเดินต่อไป.. ไม่เคยทิ้งความหวังที่มี Walk on.. walk on. With hope in your heart.

    แล้วมันจะยิ่งทวีความหอมหวานขึ้นไปอีกเมื่อเราทำมันได้สำเร็จ

    ยิ่งยาก ก็ยิ่งหวาน ยิ่งยากเป็นบ้า มันก็ยิ่งหอม..

ตังกุย

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.