ข่าวดี “บีจี-ท่าเรือ” ได้เป็นเจ้าภาพ “เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก” รอบแบ่งกลุ่ม “ราชบุรี” จ่อด้วย
เอเอฟซี ยืนยันว่า ประเทศไทยจะได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2021 รอบแบ่งกลุ่ม ในกลุ่มที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และการท่าเรือ ลงแข่งขัน รวมถึงกลุ่ม G ที่ราชบุรี จ่อได้สิทธิ์เข้ารอบแบ่งกลุ่มอัตโนมัติ
สมาพันธ์ฟุตบอลเเห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ประกาศยืนยันว่า ประเทศไทยจะได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ที่จะแข่งขันระหว่างวันที่ 21 เมษายน ถึง 7 พฤษภาคม เป็นจำนวน 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่ม F ที่มี บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ลงแข่งขัน, กลุ่ม H ที่มีการท่าเรือ เอฟซี ลงแข่งขัน และกลุ่ม G ที่ราชบุรี มิตรผล เอฟซี จ่อที่จะได้เข้ารอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติ
ก่อนหน้านี้ ในโซนตะวันออก มีเพียงประเทศไทยชาติเดียว ที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพสนามกลางในการแข่งขัน ซึ่ง “บีจี ปทุม ยูไนเต็ด” ได้ยื่นใช้สนามลีโอ สเตเดี้ยม และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ส่วน “การท่าเรือ เอฟซี” ยื่นใช้สนามช้าง อารีนา และเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา
ขณะที่ในกลุ่ม G ในขณะนี้ การจัดสรรทีมยังไม่ลงตัว เนื่องจาก “เจียงซู” แชมป์ไชนีส ซูเปอร์ลีก ประกาศยุบทีม ทำให้สิทธิ์อาจจะตกเป็นของสองทีมที่เตรียมเล่นรอบเพลย์ออฟ คือ โปฮัง สตีลเลอร์ (เกาหลีใต้) และ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ตัวแทนจากไทย อาจได้เข้ารอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติ โดยรอเพียงการยืนยันจากเอเอฟซี เท่านั้น
ด้านเจ้าภาพกลุ่มที่เหลือในโซนตะวันออก จะมีการประกาศให้ทราบอีกครั้ง
ส่วนยูเออี คู่แข่งของไทย ในการแย่งชิงเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่ม G ใน 3 นัดที่เหลือ ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในกลุ่ม B ของศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ด้วยเช่นกัน
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.