Football Sponsored

‘นิชิโนะ’ ส่องแข้งไทยลีกโค้งท้ายทำแผนเตรียม ‘ช้างศึก’ คัดบอลโลก

Football Sponsored
Football Sponsored

‘นิชิโนะ’ ส่องแข้งไทยลีกโค้งท้ายทำแผนเตรียม ‘ช้างศึก’ คัดบอลโลก

ความเคลื่อนไหวของ อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีม “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เดินทางกลับประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ช่วงปลายปี พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถกลับประเทศไทยได้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น

“โจ” นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เปิดเผยว่า อากิระ นิชิโนะ ได้เดินทางกลับเข้าสู่ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมกับเข้ามาตรการกักตัว 14 วัน ตามมาตรการของรัฐบาล ตอนนี้ทางนิชิโนะก็ทำงานตามปกติ มีการปะระสานงานกับฝ่ายเทคนิคของทีมชาติไทย ในการส่งทีมงานไปชมฟอร์มนักเตะที่กำลังแข่งขันอยู่ในฟุตบอลไทยลีก ส่วนโปรแกรมหลังจากการกักตัวนั้น อาจจะต้องให้ทางฝ่ายเทคนิคแจ้งอีกครั้งว่าทางนิชิโนะจะเริ่มออกไปชมฟอร์มของนักเตะเมื่อไหร่ แต่เชื่อว่าได้มีการพูดคุยและวางแผนเอาไว้หมดแล้ว

“อย่างไรก็ดี สมาคมฯได้ขอให้ นิชิโนะ เตรียมแผนการเตรียมทีมเอาไว้หลังจากจบไทยลีก โดยให้ทำ 2 แบบ ซึ่งแบบแรกในกรณีที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก กลุ่มจี ในนัดที่เหลือ และแบบที่สอง กรณีไม่ได้จัด แต่ต้องไปเยือนจะเตรียมทีมอย่างไร ทั้งสองแบบเผื่อไว้ทั้งได้จัดและไม่ได้จัด”

ส่วนประเด็นที่คู่แข่งในกลุ่มจี อย่างเวียดนาม ยูเออี ได้มีการเตรียมทีมมาอย่างต่อเนื่องโดยเรียกนักเตะมาซ้อมเป็นระยะๆ นั้น พ่อบ้าน ส.บอลไทย กล่าวว่า “นิชิโนะ เองก็รู้ข่าวของแต่ละทีม แต่ก็บอกมาว่าเราไม่เสียเปรียบในการที่ยังไม่เตรียมทีม เพราะบอลลีกในตอนนี้มีการแข่งขันกันสูงมาก ซึ่งเป็นเรื่องดีที่ทำให้นักเตะต่างต้องเค้นฟอร์มการเล่นออกมากันอย่างเต็มที่”

อีกทั้งเมื่อจบฤดูกาลปลายมีนาคมแล้ว ยังมีเวลาให้นักเตะได้พักเพื่อชาร์จไฟ และเชื่อว่าการกลับมาร่วมซ้อมด้วยกันในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคมนักเตะยังอยู่ในช่วงจุดพีคอยู่ เพราะฉะนั้นบอลโลกในเดือนมิถุนายนไทยไม่เป็นรองชาติไหนแน่ในเรื่องของความพร้อม” พาทิศ ศุภพงษ์กล่าว

ทั้งนี้ นิชิโนะ จะพ้นการกักตัวในช่วงวันที่ 12 มีนาคม เท่ากับว่านิชิโนะ จะมีโอกาสได้เดินทางไปชมการแข่งขันโตโยต้า ไทยลีก 2020/21 ในช่วง 4 นัดสุดท้ายของฤดูกาล เริ่มตั้งแต่เกมนัดที่ 27 ในช่วงวันที่ 13-14 มีนาคมเป็นต้นไป

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.