Football Sponsored

แฟนหงส์เบาใจ ฟาน ไดก์ ยืนยันเจ็บไม่หนักหลังปะทะกับแข้งตุรกีเกมคัดบอลโลก – ข่าวสด

Football Sponsored
Football Sponsored

เฟอร์จิล ฟาน ไดก์ กองหลังจอมแกร่ง ลิเวอร์พูล และทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงแต่อย่างใดหลังปะทะกับผู้เล่นทีมชาติตุรกีในเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

ฟาน ไดก์ ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมที่ “อัศวินสีส้ม” เปิดบ้านถล่ม ตุรกี ขาดลอย 6-1 ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่มจี เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา

  • ฟาน ไดก์ ผลักแฟนบอลหลังโดนบุกมาขอถ่ายรูประหว่างให้สัมภาษณ์ (มีคลิป)
  • ชื่นมื่น เฟอร์จิล ฟาน ไดก์ ขยายสัญญากับ ลิเวอร์พูล ถึงปี 2025
  • ข่าวดีแฟนหงส์ ฟาน ไดก์ คืนสนามให้ ลิเวอร์พูล ครั้งแรกรอบ 285 วัน

อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายเกมแข้งวัย 30 ปี โดน ฮาลิล แดร์วิโซกลู ดาวเตะ ตุรกี เข้าปะทะทั้งคน และบอล ซึ่งผู้ตัดสินไม่ได้มองว่าเป็นการฟาวล์ ก่อนทีมเสียประตูตีไข่แตก ขณะที่ ฟาน ไดก์ ต้องลงไปนั่งกับพื้นพร้อมกุมไปที่ข้อเท้าขวา ก่อนได้รับการปฐมพยาบาล

Soccer Football – World Cup – UEFA Qualifiers – Group G – Netherlands v Turkey – Johan Cruijff ArenA, Amsterdam, Netherlands – September 7, 2021 Netherlands’ Virgil van Dijk reacts after sustaining an injury REUTERS/Piroschka Van De Wouw

โดยหลายฝ่ายเป็นกังวลว่า ฟาน ไดก์ จะได้รับบาดเจ็บหนักจากจังหวะดังกล่าว ทว่าล่าสุดเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่าตนเองไม่ได้เป็นอะไรมาก “โชคดีที่ผมโอเคดี ผมไม่สนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว บางทีที่พวกเขาคิดว่าผมแกล้งเจ็บอาจจะเป็นเพราะผมตัวใหญ่ และทำให้เวลาที่ผมจะลงไปนั่งนั้นจะต้องค่อยๆทิ้งตัวลงไป”

ทั้งนี้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ฟาน ไดก์ ได้บาดเจ็บหนักที่บริเวณเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าจนส่งผลให้เจ้าตัวต้องชวดลงสนามไปนานเกือบ 10 เดือน

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.