Football Sponsored

“นิชิโนะ” เปิดใจครั้งแรกผ่านจดหมายเปิดผนึก หลังแยกทางทัพ “ช้างศึก” – ผู้จัดการออนไลน์

Football Sponsored
Football Sponsored

เผยแพร่:   ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อากิระ นิชิโนะ อดีตกุนซือทีมชาติไทย ทำจดหมายเปิดผนึก แสดงความขอบคุณ และเผยความรู้สึกถึงทุกๆสิ่งที่เคยผ่านช่วงเวลาการทำงานกับ “ช้างศึก”

ก่อนหน้านี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศยกเลิกสัญญากับ อากิระ นิชิโนะ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังพาทีมทำผลงานล้มเหลวในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย

ล่าสุดยอดเทรนเนอร์จากแดนอาทิตย์อุทัยเขียนจดหมายเปิดผนึกบอกเล่าถึงความรู้สึกต่างๆ ตลอดระยะเวลาที่ทำงานกับ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย

เรียน ครอบครัวฟุตบอลไทยทุกท่าน
สวัสดีครับ

หลังจากจบการแข่งรอบคัดเลือกที่ดูไบ เดิมที ผมจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ เลย แต่เนื่องจากมีธุระ จึงขอเดินทางกลับประเทศญี่ปุ่นชั่วคราวก่อน ซึ่งตอนนี้ หลังจากกักตัว ASQ ผมกลับมาพักอยู่ในกรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว

ก่อนอื่น หลังจากที่ผมไปรายงานสรุปผลการทำงานให้กับ FA แล้ว ผมจะต้องแถลงข่าว และรายงานสรุปผลการทำงานให้กับแฟนบอล และผู้สนับสนุนทุกท่านทราบ แต่เนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19 จึงยังไม่สามารถทำได้ ต้องขอโทษด้วยครับ

ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ที่การเข้าแคมป์ฝึกซ้อม รวมไปถึงการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ที่ดูไบ ในครั้งนี้ ไม่สามารถทำตามความคาดหวังของแฟนบอลชาวไทยทุกคนได้

แต่ผู้ที่รู้สึกแย่ และหนักหน่วงมากที่สุด คือนักฟุตบอลทุกคน หลังจากที่ได้พักเป็นเวลา 1 เดือน การเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมราบรื่น และทุกคนอยู่ในสภาพดี แต่เนื่องจากมีผู้ติดโควิด-19 ทำให้มีความจำเป็นต้องกักตัว 2 สัปดาห์ จึงไม่สามารถฝึกซ้อมเพื่อคัดเลือกนักเตะได้ และต้องพานักเตะทั้ง 42 คนไปยูเออีด้วยกัน

ซึ่งการที่ไม่สามารถตัดสินคัดเลือกนักเตะได้นั้น ทาง FA ก็เข้าใจดี และผมขอขอบคุณที่ช่วยพาทุกคนไป ในขณะเดียวกัน ก็ต้องทำให้เจ้าหน้าที่สมาคม และสต๊าฟฟ์โค้ช ต้องพลอยรับภาระหนัก และลำบากไปด้วย ผมจึงขอกล่าวคำขอบคุณพวกเขามา ณ ที่นี้ด้วยครับ

สำหรับตัวผมเองก็รู้สึกถึงความยากของการดูแลจัดการแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนเช่นกัน

นักเตะทุกคนสู้อย่างแข็งขัน และเด็ดเดี่ยวภายใต้สภาพที่ไม่พร้อมเท่าที่ควร

น่าเสียดายที่มีทั้งนักเตะในประเทศ และนักเตะที่สร้างผลงานอยู่ในญี่ปุ่นถอนตัวไป แต่ผมเชื่อว่า หากทีมชาติไทย สร้างความแข็งแกร่งโดยขับเคลื่อนไปพร้อมกับไทยลีก ทีมชาติไทย จะสามารถยกระดับสเตตัส และกลายเป็นทีมชาติที่แข็งแกร่งได้อย่างแน่นอน

สำหรับหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ผมต้องขอขอบคุณอย่างสูง สำหรับความร่วมมือของ FA, ทีมสโมสร, สปอนเซอร์ และขอขอบคุณแรงเชียร์อันล้นหลามจากแฟนบอล และผู้สนับสนุนที่ต่อสู้มาด้วยกันในฐานะผู้เล่นหมายเลข 12

ผมขอให้สถานการณ์โควิด-19 จบลงโดยเร็วที่สุด และขอให้ฟุตบอลลีกในประเทศได้กลับมาเริ่มการแข่งขัน ก่อนจะถึงวันนั้น เรามาสู้ไปด้วยกันนะครับ

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.