มาดามแป้งเผยเหตุผลทำทีมฟุตบอลต่อถึงแม้ขาดทุน – สยามกีฬา
“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสร “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ออกมาเผยสาเหตุที่ยังทำทีมฟุตบอลอยู่ถึงแม้ว่าจะขาดทุนก็ตาม
โดย “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ เผยว่า”ตัวเอง อยู่คู่กับวงการฟุตบอลไทยมาอย่างยาวนานตั้งแต่เข้ามาทำทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยประสบความสำเร็จด้วยการไปฟุตบอลโลกขณะที่ปัจจุบันก็ยังคงอยู่มนวงการฟุตบอลด้วยการทำทีม การท่าเรือ พร้อมกับทุ่มทุนมหาศาลเพื่อจะพา การท่าเรือ ประสบความสำเร็จให้ได้”
“หลายคนถามแป้งว่า จะทำฟุตบอลต่อไปทำไมเพราะมีแต่ขาดทุน แต่ของบางอย่างแม้ขาดทุนทางเงิน แต่ได้กำไรทางใจ ซึ่งบางครั้งยังช่วยสร้างความสุขให้กับคนอีกมากมาย”
อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.