Football Sponsored

ดับกระแสแยกทาง “นิชิโนะ” กร้าวนำ “ทีมชาติไทย” ลุยศึก “ฟุตบอลโลก 2026” – ไทยรัฐ

Football Sponsored
Football Sponsored

“อากิระ นิชิโนะ” กุนซือชาวซามูไรบลูของ “ทีมชาติไทย” ออกมาดับกระแสแยกทางกับทีม พร้อมวางเป้าหมายในการพาทีมไปลุยศึก “ฟุตบอลโลก 2026”

วันที่ 8 ก.ค. 64 อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอน “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ออกมาดับกระแสแยกทางกับทีมท่ามกลางกระแสข่าวลือต่างๆ มากมาย พร้อมวางเป้าหมายสำคัญในการพาทีมไปลุยศึก “ฟุตบอลโลก 2026” จากการรายงานของ yahoo.co.jp เว็บไซต์ชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น

ทั้งนี้ อากิระ นิชิโนะ พา “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง หลังตกรอบ ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบที่ 2 กลุ่มจี ด้วยการจมรองบ๊วยของตารางด้วยการมี 9 คะแนนจากการลงสนาม 8 นัด และตัวเขาเลือกที่จะเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดทันที เพื่อจัดการพิธีฝังอัฐิมารดาและร่วมวิ่งคบเพลิง โอลิมปิก 2020 ที่จะเปิดฉากในระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม ถึงวันที่ 8 สิงหาคมนี้

ล่าสุด อากิระ นิชิโนะ ที่ร่วมวิ่งขบวนคบเพลิงเมื่อวานที่ผ่านมา ณ เมืองไซตามะ ถูกสื่อถามถึงอนาคตกับ ทีมชาติไทย ซึ่งตัวเขาบอกว่า “ผมยังไม่ทราบเรื่องการตัดสินใจของสมาคมฟุตบอลไทยฯ นะ แต่ผมไม่ได้บินกลับไปยังบ้านเกิดเฉยๆ ซึ่งผมได้แจ้งเหตุผลซึ่งทางสมาคมฟุตบอลของไทยฯ ก็อนุญาตให้ผมกลับมาจากดูไบ ผมคิดว่าพวกคุณก็รู้เรื่องนั้นดีนะจากข่าวที่ออกมาก่อนหน้านั้น”

“ผมยังมีเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดนั่นคือฟุตบอลโลกครั้งต่อไป (ปี 2026) ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่จะมีข่าวออกมาในแง่ลบ เพราะผมถูกคาดหวังเอาไว้ ซึ่งผมคิดว่ามันก็มีทั้งเรื่องในแง่บวกและแง่ลบมาจากหลายๆ ที่ แต่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาผมได้เจอกับประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นในต่างแดนแบบที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน ผมได้ตั้งเป้าหมายที่จะไม่ใช่แค่พัฒนาฟุตบอลของญี่ปุ่น แต่ยังรวมถึงฟุตบอลเอเชียด้วย ผมหวังที่จะยกระดับมาตรฐานเอเชียไปสู่ระดับโลก ซึ่งเป็นฟุตบอลโลกครั้งต่อไป”

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.