จัดหนัก “อดีต ผจก.ทีมชาติไทย” หล่นความเห็นหลัง “นิชิโนะ” ไร้การติดต่อ – ไทยรัฐ
อดีตผู้จัดการ “ทีมชาติไทย” ออกมาแสดงความคิดเห็นหลังจากที่ “สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย” ติดต่อ “อากิระ นิชิโนะ” กุนซือเลือดซามูไรบลูไม่ได้ในเวลานี้
วันที่ 25 มิ.ย. 64 เศรษฐา ทวีสิน อดีตผู้จัดการ “ช้างศึก” ฟุตบอลทีมชาติไทย ออกมาแสดงความคิดเห็นหลังจากที่ “บิ๊กอ๊อด” สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยว่าไม่สามารถติดต่อ อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่นได้ในเวลานี้
เป็นที่เข้าใจกันว่า อากิระ นิชิโนะ พาทีมทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังในศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ใน 3 นัดสุดท้ายที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยผลงานเสมอ 1 แพ้ 3 จบรองบ๊วยของกลุ่มจี และทางกุนซือรายนี้ได้เปลี่ยนแผนขอกลับไปยังประเทศบ้านเกิดกะทันหันเพื่อไปทำภารกิจส่วนตัวโดยที่ไม่ได้สั่งการหรือส่งแผนงานในช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่ไว้เลย ทั้งยังไม่สามารถติดต่อได้ในเวลานี้ นั่นจึงทำให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ทำการแต่งตั้ง “โค้ชจุ่น” อนุรักษ์ ศรีเกิด ขึ้นมารักษาแทนตำแหน่งชั่วคราว
ล่าสุด เศรษฐา ทวีสิน อดีตผู้จัดการ “ช้างศึก” ฟุตบอลทีมชาติไทย ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงกระแสข่าวนี้ว่า “ให้ตายเหอะ เกิดมายังไม่เคยเห็นโค้ชทีมชาติที่ไหนเค้าหายตัวเข้ากลีบเมฆอย่างนี้เลยครับ ไม่ได้ว่าผู้ช่วยโค้ชจะทำหน้าที่แทนชั่วคราวไม่ได้ แต่เหมือนกัปตันหาย ลูกเรือก็ขวัญเสียสิครับ บริษัทชิปปิ้งไหนช่วยอนุเคราะห์ขนของแกกลับญี่ปุ่นให้หน่อยเหอะ”
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.