Football Sponsored

“สารัช” ชี้ “ทีมชาติไทย” มีแผนรับมือตัวโอนสัญชาติ-ลูกครึ่ง “มาเลเซีย” คัดบอลโลก – ไทยรัฐ

Football Sponsored
Football Sponsored

วันที่ 14 มิ.ย. 64 สารัช อยู่เย็น กองกลางทีมชาติไทย พูดถึงการพบกับ ทีมชาติมาเลเซีย ในเกมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 กลุ่มจี วันอังคารที่ 15 มิถุนายนนี้ โดยทัพ “ช้างศึก” จำเป็นต้องคว้า 3 แต้ม เพื่อเรียกความมั่นใจส่งท้ายทัวร์นาเมนต์ และตอบแทนเสียงเชียร์จากแฟนบอลชาวไทย ที่สำคัญยังมีผลต่อการไปเล่นฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 รอบคัดเลือกอีกด้วย

“เจ้าตัง” กล่าวว่า “ตอนนี้พวกเขามีนักเตะโอนสัญชาติและลูกครึ่งเพิ่มเข้ามาในชุดนี้ น่าจะทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นด้วยสรีระร่างกายที่สูงใหญ่ แต่ทีมของเราก็มีแท็กติกและวิธีการเล่นที่เตรียมไว้พบกับพวกเขา”

“เป้าหมายส่วนตัวในตอนนี้ต้องมองถึงชัยชนะก่อนเป็นอันดับแรก ผมว่ามันเป็นเป้าหมายเดียวของพวกเราในเกมนี้ ทุกคนที่ลงไปเล่นต้องมองถึงชัยชนะก่อนอยู่แล้ว”

“ผมคิดว่าเรื่องความกดดันของทีมเรามันหมดไปตั้งแต่ 2 เกมแรกแล้ว พวกเราผ่านความกดดันมาเยอะพอสมควร เพื่อนร่วมทีมทุกคนต้องโชว์ศักยภาพออกมาให้ดีที่สุด ต้องทำให้แฟนบอลเห็นว่าพวกเราทำผลงานได้ดี” มิดฟิลด์สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทิ้งท้าย

มาเลเซีย ชุดนี้มีนักเตะโอนสัญชาติและลูกครึ่งรวมกันถึง 10 คน ประกอบด้วย กิลเญร์เม เด เปาลา (บราซิล โอนสัญชาติ), โมฮามาดู ซูมาเรห์ (แกมเบีย โอนสัญชาติ), ลิริดอน คราสนิชี (แอลเบเนีย-โคโซโว โอนสัญชาติ), ลาเวียร์ คอร์บิน-ออง (อังกฤษ โอนสัญชาติ), จูเนียร์ เอลด์สตัล (ลูกครึ่งสวีเดน), เบรนแดน กัน (ลูกครึ่งออสเตรเลีย), ดิออง กูลส์ (ลูกครึ่งเบลเยียม), แม็ทธิว เดวีส์ (ลูกครึ่งออสเตรเลีย), โดมินิก ตัน (ลูกครึ่งสิงคโปร์), ซามูเอล ซอเมอร์วิลล์ (ลูกครึ่งอังกฤษ)

แมตช์ล้างตา ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติมาเลเซีย ในเกมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 กลุ่มจี วันอังคารที่ 15 มิถุนายนนี้ แข่งขันในเวลา 23.45 น. ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 23.10 น.

ส่วนช่องทางออนไลน์ รับชมได้ที่เว็บไซต์ https://www.thairath.co.th/tv/live และ แอปพลิเคชัน WeTV : http://bit.ly/THvsMYapp

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.