หงส์แดงกลับสู่ฟอร์มเก่งอีกครั้ง เมื่อมาได้สองประตูในครึ่งหลังเก็บชัยเหนือทัพกระทิงหนุ่มได้ก่อนในรอบ 16 ทีมนัดแรกของ UCL
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2020-2021 รอบ 16 ทีมนัดแรก เป็นการพบกันระหว่าง แอร์เบ ไลป์ซิก มาใช้สนามปุสกัส อารีนา ในประเทศฮังการีเป็นรังเหย้าชั่วคราวพบกับ ลิเวอร์พูล
ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ กุนซือทัพกระทิงหนุ่ม เลือกจัดทัพมาในระบบ 3-1-4-2 ใช้คู่กองหน้าเป็น ดานี โอลโม ประสานงานร่วมกับ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู
ด้านหงส์แดงของ เยอร์เก้น คล็อปป์ วางหมากมาในแผน 4-3-3 ใช้แนวรุกเป็นสามประสาน SMF ได้แก่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน
ครึ่งแรกเป็นฝั่งของลิเวอร์พูลซึ่งทำเกมรุกได้เหนือกว่า และส่งบอลตุงตาข่ายได้แล้วด้วย ในนาทีที่ 36 จากจังหวะที่ มาเน ตวัดเปิดบอลทางสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายเข้ากลางให้ ฟีร์มิโน โหม่งจ่อ ๆ เข้าไป ทว่ากลับโดนผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงว่าบอลนั้นออกหลังไปแล้วตอนที่ มาเน เปิดบอล ทำให้จบครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0
ครึ่งหลังหงส์แดงมาจัดการพังประตูขึ้นนำ ในนาทีที่ 53 จากความผิดพลาดของ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ซึ่งส่งคืนหลังไม่ดีกลายเป็นไปถวายพานให้ ซาลาห์ ลากหลุดเดี่ยวไปแปด้วยขวาอย่างเด็ดขาด ส่งให้อดีตแชมป์ 6 สมัยออกนำ 1-0
ถัดมานาทีที่ 58 ทีมจากอังกฤษมาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ เคอร์ติส โจนส์ สาดบอลโด่งจากแดนหลังขึ้นหน้ามาแล้วทาง นอร์ดี มูคิเอเล ดันหวดสกัดไม่โดนจนบอลกระดอนไปถึง มาเน ลากหลุดเดี่ยวไปยิงด้วยขวาอย่างง่ายดาย ช่วยให้ลิเวอร์พูลหนีห่างเป็น 2-0
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นลิเวอร์พูลชนะไป 2-0 กุมความได้เปรียบก่อนที่นัดสองจะแข่งขันในคืนวันพุธที่ 10 มีนาคมนี้ ซึ่งยังต้องรอยืนยันอีกครั้งว่าจะได้เล่นในแอนฟิลด์ หรืออาจต้องเปลี่ยนไปแข่งขันในสนามกลาง
แอร์เบ ไลป์ซิก (3-1-4-2) : ปีเตอร์ กูลาชซี; นอร์ดี มูคิเอเล (วิลลี ออร์บาน น.64), ดาโยต์ อูปาเมกาโน, ลูคัส คลอสเตอร์มันน์; เควิน คัมเพิล (ฮวัง ฮี-ชาน น.73); ไทเลอร์ อดัมส์, มาร์เซล ซาบิตเซอร์, อมาดู ไฮดารา (ยุสซุฟ โพลเซน น.64), อังเคลินโญ; คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, ดานี โอลโม
สำรองไม่ได้ใช้ : อิบราฮิมา โคนาเต้, อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ, ลาซาร์ ซามาร์ดซิช, จัสติน ไคลเวิร์ต, มาร์เซล ฮัลส์เตนแบร์ก, โฆเซป มาร์ติเนซ, ฟาบริซ ฮาร์ทมันน์, เบนยามิน เฮนริคส์
ใบเหลือง – อมาดู ไฮดารา น.5, นอร์ดี มูคิเอเล น.6, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู น.52, อังเคลินโญ น.65, ดานี โอลโม น.76
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โอซาน คาบัค, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน; เคอร์ติส โจนส์, จอร์จินิโย ไวจ์นัลดุม, ติอาโก้ อัลคันทารา (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.72); โมฮาเหม็ด ซาลาห์(เนโก้ วิลเลียมส์ น.90), โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน (เซอร์ดาน ชากิรี น.72), ซาดิโอ มาเน
สำรองไม่ได้ใช้ : อาเดรียน, คอสตาส ซิมิคาส, ดีว็อก โอริกี้, เบน เดวีส์, รีส วิลเลียมส์, นาธาเนียล ฟิลลิปส์, ควีวีน เคลเลเฮอร์, เจค เคน, เลห์ตัน คลาร์กสัน
ใบเหลือง – โอซาน คาบัค น.68, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.81
| เกม | ไลป์ซิก – ลิเวอร์พูล |
| วันที่ | คืนวันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 |
| เวลา | 3.00 น. (เช้ามืดวันพุธ) |
| สนาม | ปุสกัส อารีนา |
ไลป์ซิก เกมนี้จะไม่มี โดมินิค โซบอสซ์ไล, เบนจามิน เฮนริคส์ และ คอนราด ไลเมอร์ ที่มีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ต้องรอเช็คความฟิต แนวรับคาดว่าจะใช้ นอร์ดี มูคิเอเล, ดาโยต์ อูปาเมกาโน และ ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ เป็นสามเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แดนกลางนำทัพโดย เควิน คัมเพิล ประสานงานกับ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ และ ดานี โอลโม โดยมี คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู และ ยุสซูฟ โพลเซน เป็นคู่หัวหอก
ลิเวอร์พูล เกมนี้จะยังไม่มี เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, ดิโอโก้ โชต้า, นาบี เกอิต้า, โจ โกเมซ และ โจเอล มาติป ที่ยังบาดเจ็บ ขณะที่ เจมส์ มิลเนอร์ ต้องรอเช็คความฟิต แนวรับต้องได้ ฟาบินโญ ฟิตกลับจับคู่กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แดนกลางนำทัพโดย จอร์จินโญ ไวจ์นัลดุม ประสานงานกับ ติอาโก้ อัลคันทารา และ เคอร์ติส โจนส์ แนวรุกเป็นสามประสาน ซาดิโอ มาเน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน
ไลป์ซิก
กูลาคซี(GK)
มูคิเอเล, อูปาเมกาโน, คลอสเตอร์มันน์
อดัมส์คัมเพิล, ซาบิตเซอร์, โอลโม, อังเจลิโน
เอ็นคุนคู, โพลเซน
ลิเวอร์พูล
อลิสซอน (GK)
อาร์โนลด์, ฟาบินโญ, เฮนเดอร์สัน, โรเบิร์ตสัน
ติอาโก้, ไวจ์นัลดุม, โจนส์
ซาลาห์, ฟีร์มิโน, ซาเน
ไลป์ซิก เปิดบ้านเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-2 ในเกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ขณะที่ ลิเวอร์พูล บุกเสมอ มิดทิลแลนด์ 1-1
ต ิ ดตามข่าว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
โ ปรแกรมการแข่งขันคู่อื่นๆ
คริสเตียโน่ โรนัลโด้…
ผลฟุตบอลยูฟ่า ยูโรป้…
This website uses cookies.