Football Sponsored
Categories: ฟีฟา

เสียงอะซานดังกึกก้อง นอกมัสยิดอังกฤษเป็นครั้งแรก

Football Sponsored
Football Sponsored

สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์ : เสียงอะซานดังกึกก้อง นอกมัสยิดอังกฤษเป็นครั้งแรก

มัสยิดฟารุก อี อาซาม (Farooq E Azam mosque) ซึ่งตั้งอยู่ในซอย Bowesfield เขตสต็อกตัน ประเทศอังกฤษ เป็นมัสยิดแรกในเขตนอร์ธ-อีสต์ ที่กระจายเสียงอะซานจากหลังคามัสยิดในช่วงที่มีการล็อคดาวน์ จากโรคระบาดโควิด-19

ต่อมา มัสยิดได้รณรงค์ให้มีการกระจายเสียงอะซานละหมาดญุมอัต ทุกวันศุกร์ ในเวลาประมาณ 13:15 น. และด้วยความช่วยเหลือของคณะกรรมการสภาท้องถิ่น คำร้องดังกล่าวได้รับการอนุมัติ

วันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นวันที่มัสยิดค่อนข้างแน่นขนัดจากจำนวนศรัทธาชนที่มาร่วมละหมาดวันศุกร์กว่า 1,000 คน และยังเป็นวันที่มีการกระจายเสียงอะซานออกนอกมัสยิดเป็นครั้งแรกด้วย สมาชิกของมัสยิดมีความภาคภูมิใจ และรู้สึกขอบคุณ ที่สามารถกระจายเสียงอะซานได้สัปดาห์ละ 1 วัน

การอะซาน (เรียกร้องสู่การเคารพภักดีพระเจ้า) ใช้เวลาเพียง 1-2 นาที และเสียงที่กระจายออกนอกมัสยิด ไม่ได้ดังเกินไปกว่าเสียงการลั่นระฆังโบสถ์ โดยนาย อิมาน ฮาฟิซ รอฟิก เป็นผู้กล่าวคำอะซาน

นายทาริก ซาดิก ประธานมัสยิด กล่าวว่า มัสยิดต้องขอบคุณสภาท้องถิ่น โดยเฉพาะ สมาชิกสภาหลุยส์ บาลด็อก และโมฮัมเหม็ด ญาเวด รวมประชาชนที่ให้การสนับสนุน การดำเนินงานของมัสยิด

ซูฟี มุบีน รองประธานมัสยิด กล่าวว่า การอนุมัติให้กระจายเสียงอะซานออกนอกมัสยิด สื่อความหมายถึงการเปิดกว้าง ไม่เหยียดเชื้อชาติ

หมายเหตุ: มัสยิดทำการอะซานภายในตามเวลาละหมาด วันละ 5 ครั้ง

ที่มา: www.gazettelive.co.uk

https://news.muslimthaipost.com/news/36923

  • มัสยิดออตโตมันที่ถูกไฟไหม้ จ่อบูรณะกองทุนค้ำประกัน
  • มัสยิดในรัฐกรณาฏกะ กว่า 10,000 แห่งไฟเขียวใช้ลำโพงได้
  • มุสลิมเมืองโคโลญ จ่อรอฟังเสียงอะซานครั้งแรก
  • หลังเปลี่ยนเป็น มัสยิดฮาเกียโซเฟีย ตบเท้าเข้า 6.5 ล้านคน
  • มัสยิดเยอรมันกว่า 800 แห่งถูกโจมตี ตั้งแต่ปี 2014
  • ทำไมมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในมุมไบ ถึงต้องลดเสียงอะซานลง ?
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.