รัฐบาลจอร์แดนกล่าวหาว่า เจ้าชายฮัมซาห์ บิน ฮุสเซน อดีตรัชทายาท พระอนุชาต่างมารดา (น้องชายคนละแม่) ในพระบาทสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 2 วางแผนการทำลายความมั่นคงของประเทศ และควบคุมพระองค์ไว้ในพระตำหนัก โดยไม่ให้ติดต่อกับโลกภายนอก
การเคลื่อนไหวนี้แสดงให้เห็นว่าขณะนี้กำลังเกิดความขัดแย้งภายในราชวงศ์
ด้านนายเอมัน ซาฟาดี รองนายกรัฐมนตรีจอร์แดน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (4 เม.ย.) ว่า เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงดักฟังการสนทนาระหว่างอดีตรัชทายาทพระองค์นี้ คนสนิท และชาวต่างชาติ จนทราบว่ากำลังวางแผนทำลายความมั่นคงของประเทศอยู่
“การสอบสวนดังกล่าวจับได้ว่าทรงมีความพยายามแทรกแซง และทรงติดต่อกับคนอื่นๆ รวมถึงต่างชาติ ถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมในการบ่อนทำลายความมั่นคงของจอร์แดน”
นอกจากนี้ นายซาฟาดี ยังกล่าวอีกว่า เจ้าชายฮัมซาห์ บิน ฮุสเซน ยังพยายามขับเคลื่อนชาวจอร์แดนให้ต่อต้านรัฐอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวบีบีซีเผยคลิปคลิปหนึ่งเมื่อวันเสาร์ (3 เม.ย.) ที่มีเนื้อหาว่าเจ้าชายฮัมซาห์ บิน ฮุสเซน ทรงปฏิเสธว่าพระองค์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการสมคบคิดใดๆ และองค์กรใด หรือกลุ่มผลประโยชน์ที่มีต่างชาติสนับสนุน
“เราอยู่บ้านตามลำพังกับพระชายา กับลูกๆ เราอัดคลิปนี้เพื่อให้โลกเห็นชัดๆ ว่าสิ่งที่ทุกคนเห็นและได้ยินจากรัฐบาลไม่ใช่ความจริงที่เกิดขึ้นเลยสักนิด” เจ้าชายฮัมซาห์ บิน ฮุสเซน รับสั่ง
อดีตรัชทายาทพระองค์นี้ทรงเผยอีกว่า ทรงถูกตัดขาดจากโลกภายนอกไม่ให้ติดต่อใคร เพราะมีความกลัวว่าพระองค์จะวิจารณ์รัฐบาลหรือพระบาทสมเด็จพระราชาธิบดี
“ผู้บัญชาการกองทัพจอร์แดนมาเยี่ยมเราเช้านี้ บอกว่าเราไม่ได้รับอนุญาตให้ไปข้างนอกเพื่อไปหาใครๆ หรือไปเจอพวกเขา หาว่าเราเคยไปเจอหรือคุยกันในโซเชียลมีเดียเพื่อวิจารณ์รัฐบาลหรือในหลวง” อดีตรัชทายาท รับสั่ง
“เราถามเขาว่าเราเป็นคนที่วิจารณ์เหรอ เขาบอกว่าไม่ แต่ต้องขังเราเพราะเขา ผู้บัญชาการตำรวจ ผู้บัญชาการหน่วยรักษาความปลอดภัย ผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรอง อยากเตือนเราว่าเราไม่ควรออกจากตำหนัก”
นอกจากเจ้าชายฮัมซาห์ บิน ฮุสเซน แล้ว นายซาดาฟี รองนายกรัฐมนตรีจอร์แดน กล่าวอีกว่า มีคน 16-18 คนถูกจับเพราะเกี่ยวข้องกับการวางแผนดังกล่าว แต่ขณะนี้การสอบสวนยังคงดำเนินต่อไป
ทั้งนี้ เจ้าชายฮัมซาห์ บิน ฮุสเซน ทรงถูกวางพระองค์ให้เป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์จอร์แดนแทนพระบิดา แต่ก่อนพระบาทสมเด็จพระราชาธิบดีฮุสเซนสวรรคตจากโรคมะเร็งเมื่อปี 2542 พระองค์ทรงเสนอให้พระบาทสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 2 ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระองค์ เพราะทรงเห็นว่าเจ้าชายฮัมซาห์ยังมีประสบการณ์น้อยและทรงพระเยาว์เกินไปที่จะทรงเป็นประมุขของประเทศ
ต่อมา แม้พระบาทสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์ปัจจุบันจะทรงเคยแต่งตั้งให้เจ้าชายฮัมซาห์ บิน ฮุสเซน เป็นรัชทายาทเมื่อปี 2542 แต่ก็ทรงถูกปลดจากตำแหน่งดังกล่าวเมื่อปี 2547
ด้านสหรัฐและประเทศในโลกอาหรับต่างสนับสนุนการตัดสินพระทัยของพระบาทสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 2
สอดคล้องกับซาอุดีอาระเบียที่ระบุว่า จะสนับสนุนทุกการตัดสินใจและวิธีการต่างๆ ที่พระบาทสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งจอร์แดนเห็นสมควร เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศ
This website uses cookies.