Football Sponsored
Categories: ฟีฟา

“จู๊ด” ขอลา “ดอร์ทมุนด์” จบบอลโลก ครอบครัวเชียร์ย้ายไป “ลิเวอร์พูล”

Football Sponsored
Football Sponsored

เผยแพร่:   ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กองเชียร์ ลิเวอร์พูล ถูกปลุกความหวัง จู๊ด เบลลิงแฮม มิดฟิลด์เนื้อหอม ขอแยกทาง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยักษ์ใหญ่แห่ง บุนเดสลีกา เยอรมัน ย้ายมาค้าแข้งย่านเมอร์ซีย์ไซด์

กองกลางทีมชาติอังกฤษ กำลังเฉิดฉายบนสังเวียน ฟุตบอลโลก ที่ประเทศกาตาร์ เสริมสร้างโปรไฟล์ของเขาให้โดดเด่นยิ่งขึ้น

อดีตนักเตะ เบอร์มิงแฮม ซิตี ตกเป็นเป้าหมายของหลายสโมสร ตั้งแต่ซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันยังคงปักหลักถิ่น ซิกนัล อิดูนา ปาร์ก และกลายเป็นดาวรุ่งที่กำลังมาแรงสุดคนหนึ่งของลูกหนังยุโรป

ทว่า ล่าสุด “สปอร์ต บิลด์” สื่อของประเทศเยอรมนี รายงาน จู๊ด วัย 19 ปี ต้องการย้ายทีม เพื่อให้การซื้อ-ขายราบรื่น หลังจบศึกฟีฟา เวิลด์ คัพ 2022

มาร์ก กับ เดนิส พ่อ-แม่ และ มาร์ก เบนเน็ตต์ เอเยนต์ส่วนตัว เป็นทีมงานเจรจาของนักเตะ โดยเชื่อว่า พวกเขาต้องการให้ จู๊ด ย้ายร่วมงานกับ เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน

คล็อปป์ เล็งเห็นว่า จู๊ด เป็นจอมทัพแดนกลางระยะยาวของ “หงส์แดง” เนื่องจาก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมวัย 32 ปี, เจมส์ มิลเนอร์ วัย 36 ปี และ ติอาโก อัลคานทารา วัย 31 ปี กำลังร่วงโรยตามสังขาร

สาวก “เดอะ ค็อป” ยังเกิดอาการฟินสุดๆ เนื่องจากความสนิทสนมระหว่าง จู๊ด กับ เฮนโด ตลอดจนการประสานงานของทั้งคู่ ซึ่งนำไปสู่ประตูแรกของ “สิงโตคำราม” เกมถล่ม เซเนกัล 3-0 ศึกฟุตบอลโลก รอบ 16 ทีมสุดท้าย วันที่ 4 ธันวาคม

ตามรายงานข่าว ระบุ ดอร์มุนด์ ปักป้ายขาย จู๊ด 130 ล้านปอนด์ (ราว 5,540 ล้านบาท) ขณะที่ ไมค์ กอร์ดอน ผู้อำนวยการ เฟนเวย์ สปอร์ตส กรุ๊ป (FSG) อนุมัติงบให้เพียง 86 ล้านปอนด์ (3,670 ล้านบาท)

ถึงแม้ คล็อปป์ มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับ ฮันส์-โยอาคิม วัตซ์เก ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการ ดอร์ทมุนด์ แต่ไม่น่าจะเป็นเงื่อนไขของส่วนลดเกือบ 50 ล้านปอนด์ (2,130 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม “เอฟเอสจี” พยายามขายสโมสร หานักลงทุนรายใหม่เติมเงินส่วนที่ขาด เพื่อแย่งชิง จู๊ด กับสโมสรเงินถุงเงินถังอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, เชลซี และ รีล มาดริด

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.