สิงโตคำรามปึ้ก! ‘เคน’ปักหอกยิงอิหร่าน ดัทช์เต็มสูบดวลเซเนกัล

ขุนพลแข้ง “สิงโตคำราม” ประเดิมสนามกลุ่มบี ดวล อิหร่าน ขณะที่ “อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ คืนสังเวียนบอลโลกอีกครั้งในรอบ 8 ปี จะเจอกับ เซเนกัล ยักษ์ใหญ่จากทวีปแอฟริกา ปิดท้ายด้วยคู่ดึก “มังกรไฟ” เวลส์ ที่เล่นบอลโลกครั้งแรกรอบ 64 ปีจะดวลกับ สหรัฐอเมริกา

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศ กาตาร์ ประจำวันจันทร์ที่ 21 พ.ย. นี้จะมีลงสนามฟาดแข้ง 3 คู่ เริ่มจากกลุ่ม บี “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ จะดวลกับ ทีมชาติ อิหร่าน ในเวลา 20.00น. จากนั้นในเวลา 23.00น. ในกลุ่ม เอ ทีมชาติ เซเนกัล จะดวลกับ ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ และปิดท้ายคู่ดึกกลุ่ม บี ทีมชาติ สหรัฐอเมริกา จะพบกับ ทีมชาติ เวลส์ ในเวลา 02.00น. เป็นต้นไป โดยปรีวิวทั้ง 3 คู่มีดังนี้

20.00น. อังกฤษ – อิหร่าน (True4U) : “สิงโตคำราม” รองแชมป์ยูโร 2020 เกมนี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือของทีมสภาพทีมจะยังหมดสิทธิ์ใช้งาน ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็กขวาคนสำคัญที่เพิ่งหายเจ็บและคาดว่าจะกลับมาลงเล่นได้ในเกม 2 ส่วน เจมส์ แมดดิสัน กองกลางจอมทัพก็จะไม่พร้อมลงเล่นในเกมนี้เช่นกัน

เกมนี้ อังกฤษ จะมาในระบบ 3-4-3 ผู้รักษาประตูเป็น จอร์แดน พิคฟอร์ด ยืนเฝ้าเสา ส่วนเกมรับวาง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ,จอห์น สโตนส์ และ เอริค ไดเออร์ ยืนเป็น 3 ประสาน ส่วนแดนกลาง จู๊ด เบลลิงแฮม จะยืนเป็นห้องเครื่องร่วมกับ เดแคลน ไรซ์ พร้อมให้ ลุค ชอว์ และ คีแรน ทริปเปียร์ เป็นวิงแบ็กขึ้นเกมริมเส้น พร้อมปล่อยให้ 3 ประสานอย่าง บูกาโย่ ซาก้า ,ฟิล โฟเด้น และ แฮร์รี่ เคน ดาวยิงกัปตันทีมลงล่าตาข่าย

ทางฝั่ง อิหร่าน ที่มี คาร์ลอส เคยรอซ กุนซือชาวโปรตุเกส คุมทัพ เกมนี้สภาพทีมไม่ต้องเจอปัญหาแข้งบาดเจ็บหรือติดโทษแบน แต่ต้องเช็คความฟิตของ ซาร์ดาร์ อัซมูน กองหน้าคนสำคัญจาก ไบเออร์เลเวอร์คูเซ่น ว่าจะพร้อมลุยเกมนี้หรือไม่ ส่วนแข้งรายอื่นจะพร้อมนำทัพในระบบ 4-5-1 นำโดย โชจา คาลิลซาเดห์ ปราการหลังจาก อัล-อาห์ลี ที่จะยืนเป็นแกนหลัก พร้อมด้วย อาลีเรซ่า จาฮานบัคซ์ , ซามาน ด็อดดอส ,เมห์ดี้ ทาเรมี่ และ คาริม อันซาริฟาร์ด ลงล่าตาข่าย

เซเนกัล – เนเธอร์แลนด์ 23.00 น. (JKN18) : ทัพ “สิงโตแห่งเตรังก้า” เจ้าของแชมป์ แอฟริกัน เนชั่นส์คัพ ภายใต้การคุมทัพของ อลิยู ซิสเซ่ ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่ที่สุดเมื่อ ซาดิโอ มาเน่ แนวรุกกัปตันทีม ได้รับบาดเจ็บก่อนฟุตบอลโลกจะเริ่ม และหายไม่ทันจนต้องถอนตัวจากการแข่งขัน โดยเกมนี้สภาพทีม จะไม่เจอปัญหาแข้งเจ็บเพิ่มเติม โดยจะมาในระบบ 4-3-3 นำโดยแกนหลักอย่าง เอดูอาร์ด เมนดี้ นายทวารเชลซี ยืนเฝ้าเสา ส่วนแผงเกมรับ คาลิดู คูลิบาลี่ จะเป็นปราการหลังร่วมกับ อับดู ดิยัลโล่ ส่วนแดนกลาง น็อมปาลิส เมนดี้ จะยืนเป็นห้องเครื่องร่วมกับ อิดริสซ่า กาน่า เกย์ และ ป๊าป มาตาร์ ซาร์ พร้อมให้ อิสไมล่า ซาร์ , เครแปง ดิอัตต้า และ บูลาย เดีย ลงล่าตาข่าย

ทางฝั่ง “อัศวินสีส้ม” ที่กลับมาเล่นในบอลโลกอีกครั้งในรอบ 8 ปี โดยมี หลุยส์ ฟาน กัล เป็นกุนซือคุมทัพ เกมนี้สภาพทีม จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์เท่น เดอ รูน และ เมมฟิส เดอ ปาย กองหน้าคนสำคัญที่ยังมีอาการบาดเจ็บ โดยทีมจะมาในระบบ 3-5-2 นำโดยแผงแนวรับอย่าง เวอร์กิล ฟาน ไดค์ ,สเตฟาน เดอ ฟีรจ์ และ มาร์ไตส์ เดอ ลิกท์ ส่วนวิงแบ็กสองฝั่งจะให้ นาธาน อาเก้ และ เดนเซล ดุมฟรีส์ คอยขึ้นเกม ส่วนแดนกลางนำมาโดย เฟรงค์กี้ เดอ ยอง ,ดาร์ลีย์ บลินด์ และ ดาร์วี คลาสเซ่น คอยขับเคลื่อนเกม พร้อมให้ โคดี้ กัคโป้ และ ลุค เดอ ยอง ลงล่าตาข่าย

สหรัฐอเมริกา – เวลส์ 19.00น. (ทีสปอร์ต 7): สหรัฐอเมริกา ภายใต้การคุมทัพของ เกร็กก์ เบอร์ฮัลเตอร์ เกมนี้สภาพทีมจะขาด ลูก้า เด ลา ตอร์เร่ กองกลางคนสำคัญจาก เซลต้า บีโก้ ที่ยังไม่หายเจ็บ ส่วนแกนหลักรายอื่นจะพร้อมลงสนามในระบบ 4-3-3 นำโดย แมตต์ เทอร์เนอร์ ผู้รักษาประตูจาก อาร์เซน่อล ยืนเฝ้าเสา ส่วนแผงหลังนำโดย แซร์จินโญ่ เดสต์ , วอล์คเกอร์ ซิมเมอร์แมน ,อารอน ลอง และ แอนโทนี่ โรบินสัน ส่วนแดนกลางให้ เวสตัน แม็คเคนนี่ยืนเป็นห้องเครื่องร่วมกับ ไทเลอร์ อดัมส์ และ ยูนุลส มูซาห์ พร้อมวาง คริสเตียน พูลิซิช กัปตันทีมเป็นสามประสานแนวรุกร่วมกับ โจวานนี่ เรย์น่า และ เฉซุส แฟร์เรย์ร่า

ทางฝั่งทัพ “มังกรไฟ” ที่มาเล่นบอลโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี หรือตั้งแต่ปี 1958 โดยพวกเขามี โรเบิร์ต เพจ คุมทัพ เกมนี้สภาพทีมจะขาด โจ อัลเลน กองกลางตัวเก่งที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วนแกนหลักรายอื่นจะมาในระบบ3-4-3 นำโดย เวย์น เฮนเนสซีย์ ยืนเฝ้าเสา ส่วนเกมรับ เบน เดวิส ,โจ โรดอน และ อีธาน อัมปาดู จะยืนเป็นแผงปราการหลัง ส่วนแดนกลางมี อารอน แรมซีย์ เป็นจอมทัพ ร่วมกับ โจ มอร์เรลล์ พร้อมให้ เนโก้ วิลเลี่ยมส์และคอนเนอร์ โรเบิร์ตส์ คอยขึ้นเกมริมเส้น ส่วนแนวรุก 3 ประสานจะนำมาโดย แกเร็ธ เบล ,ดาเนี่ยล เจมส์และเบรนแนน จอห์นสัน