Football Sponsored
Categories: ฟีฟา

“เคน” เสี่ยงติดแบน สวมปลอกแขนประท้วง “กาตาร์” เลิกกดขี่มนุษย์

Football Sponsored
Football Sponsored

เผยแพร่:   ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แฮร์รี เคน กัปตันทีม อังกฤษ ยืนกรานสวมปลอกแขนเขียนข้อความ “OneLove” ท่ามกลางเสียงข่มขู่ปรับเงิน และโดนใบเหลือง ระหว่างการต่อสู้อันดุเดือด ระหว่าง สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) กับ สมาคมฟุตบอลของยุโรปหลายแห่ง

9 ประเทศ รวมบิ๊กเนมอย่าง เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์ และ เบลเยียม เห็นพ้องต้องกันตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ประเด็นสวมปลอกแขนเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านการแบ่งแยก, การเลือกปฏิบัติ และรณรงค์ด้านความสามัคคี ตามกระแสความกังวลเกี่ยวกับปัญหาสิทธิมนุษยชนของ กาตาร์ เจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022

แหล่งข่าวเผยต่อ “อีเอสพีเอ็น” สื่อของสหรัฐอเมริกา สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เขียนข้อความถึง “ฟีฟา” กับ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (UEFA) เพื่อแจ้งความประสงค์ แต่ทั้ง 2 องค์กรคัดค้านการแสดงออกทางการเมือง ยกเว้น “ยูฟา” อนุญาตให้ใช้ปลอกแขนดังกล่าว ในการแข่งขัน เนชันส์ ลีก

ด้าน “ฟีฟา” ปฏิเสธแสดงจุดยืน และคลอดปลอกแขนขององค์กรสำหรับกัปตันทีมทั้ง 32 ทีม สำหรับสวมใส่เพื่อปลุกความตื่นตัวทางสังคม

สมาคมฟุตบอลทั้ง 9 ประเทศ ยินยอมจ่ายค่าปรับข้อหาเคลื่อนไหวทางการเมือง และได้รับคำเตือนว่ากัปตันทีมจะถูกใบเหลืองช่วงคิกออฟของทุกแมตช์

อย่างไรก็ตาม ดาวยิงสังกัด ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ กล่าว “ผมคิดว่าเรามีความชัดเจนในฐานะทีม, สตาฟฟ์ และ องค์กรว่า เราต้องการสวมปลอกแขนนี้ ผมรู้ว่า เอฟเอ กำลังหารือกับ ฟีฟา และผมมั่นใจว่าพอถึงแมตช์เปิดสนาม เราจะตัดสินใจ ผมคิดว่าเรามีความชัดเจนว่า เราต้องการสวม”

พลพรรค “สิงโตคำราม” จะลงเล่นแมตช์แรกของกลุ่ม B พบ อิหร่าน วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน ตามด้วย สหรัฐอเมริกา วันที่ 25 พฤศจิกายน และ เวลส์ วันที่ 29 พฤศจิกายน

แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือ “เดอะ ทรี ไลออนส์” คอมเมนต์กรณี เคน เจ้าของรางวัล “รองเท้าทองคำ” ปี 2018 จะถูกใบเหลืองตามสถานการณ์ดังกล่าว “ไม่มีอะไรที่ผมสามารถเสริมสิ่งที่ แฮร์รี พูดไว้ ผมรู้ว่ากำลังมีการหารืออยู่ ผมคิดว่าหลายประเทษของยุโรปพูดไปแล้ว และจุดยืนของเราชัดเจน ดังนั้นหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะพบหนทางแก้ปัญหาก่อนเริ่มเกม”

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.