Football Sponsored
Categories: ฟีฟา

“บัดไวเซอร์” ร้อง “ฟีฟา” เยียวยา 40 ล้านปอนด์ “กาตาร์” แบนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

Football Sponsored
Football Sponsored

เผยแพร่:   ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“บัดไวเซอร์ (Budweiser)” เรียกร้องค่าเสียหาย 40 ล้านปอนด์ (1,703 ล้านบาท) จาก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) กรณี กาตาร์ เจ้าภาพ เวิลด์ คัพ 2022 แบนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ผู้ผลิตเบียร์สัญชาติอเมริกัน เป็นหนึ่งในสปอนเซอร์ของ ฟุตบอลโลก 2022 และเตรียมจัดหาเครื่องดื่มบริเวณสนามไว้รองรับผู้ชมบริเวณแฟนโซน ที่ประเทศกาตาร์

อย่างไรก็ตาม คอลูกหนัง ต้องเผชิญบรรยากาศที่เงียบเหงากว่าเดิม หลังฝ่ายจัดการแข่งขันกลับลำอย่างกะทันหัน เกี่ยวกับมาตรการเครื่องมึนเมา

ก่อนหน้า กาตาร์ ประกาศไว้ว่า เบียร์ และเครื่องดื่มต่างๆ ถูกเตรียมไว้เพื่อรองรับแฟนๆ บริเวณสนามกีฬาทั้ง 8 แห่ง

อย่างไรก็ตาม ประธาน “ฟีฟา” คล้อยตามแรงกดดันของ หน่วยงานภาครัฐของกาตาร์ และยืนยันไม่ให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกสังเวียนฟาดแข้งของทัวร์นาเมนต์

กลายเป็นข่าวร้ายของผู้สนับสนุน “บัดไวเซอร์” ซึ่งต้องการเรียกร้องค่าเสียหายจากการกลับลำแบบพลิกความคาดหมาย

“บัดไวเซอร์” เซ็นสัญญากับ “ฟีฟา” มูลค่าราว 65 ล้านปอนด์ (2,770 ล้านบาท) เฉพาะการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ และ 95 ล้านปอนด์ (4.050 ล้านบาท) ปี 2026

ฟุตบอลโลก ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นทวีปอเมริกาเหนือ โดย 3 เจ้าภาพร่วม สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, เม็กซิโก และเพิ่มจำนวนทีมเข้าร่วมแข่งขันจากเดิม 32 เป็น 48 ทีม เท่ากับว่าจะมีโปรแกรมเพิ่มจากเดิม 64 แมตช์ เป็น 104 แมตช์

ด้วยเหตุนี้ “บัดไวเซอร์” จึงสามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตามบริเวณต่างๆ ของสนามแข่งขัน และ แฟนโซน กว้างขวางยิ่งขึ้น

“เดอะ ซัน” แท็บลอยด์หัวดังของอังกฤษ เข้าใจว่า “บัดไวเซอร์” จะขอลดเงินสนับสนุนเหลือ 55 ล้านปอนด์ (2,340 ล้านบาท) สำหรับหน้าที่ผู้จัดหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ครั้งต่อไป เนื่องจากคำสั่งแบนของมึนเมา ที่กาตาร์

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.