ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เตรียมเปิดบ้าน รับมือ ลิเวอร์พูล ศึกนี้เทพีแห่งชัยชนะจะเข้าข้างใคร ใครมีดีกว่ากันนัดนี้เทียบกันไปเลย
ศึกพรีเมียร์ลีกคู่สุดท้ายของอาทิตย์นี้ ระหว่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล โดยที่ทั้งคู่ต้องการ 3 คะแนน เพื่อให้อยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์จ่อไป ซึ่งทั้งคู่จะต้องพบกันใน วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายนนี้ เวลา 23.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่สนาม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม ซึ่งสามารถชมได้ทางช่อง แฟนคลับสเปอร์ส , แฟนคลับลิเวอร์พูล , True Premier Football 1 , True Premier Football 2
ซึ่งการดวลกันระหว่างสองทีมในครั้งนี้ ถือเป็นเกมที่มีความหมาย และมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อทั้ง 2 ทีม ทั้งในแง่ของศักดิ์ศรี และเรื่องของอันดับในตารางคะแนน โดยเฉพาะฝั่งของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคว้า 3 แต้ม เพื่อให้เกาะกลุ่มหัวตารางต่อไป
ส่วนทางทีมเยือน ลิเวอร์พูล มีผลงานที่ยอมรับว่ายังต้องลุ้นแบบนัดต่อนัด และชอบไปพลาดท่าเสียทีให้กับทีมเล็กท้ายตาราง และทำแต้มหายไปถึง 6 แต้ม โดยในเกมนี้ทั้งคู่ต้องการชัยชนะกันทั้งคู่ ทีมใดที่มีขุมกำลัง และสภาพความพร้อมที่เหนือกว่ากัน เราขอวิเคราะห์ ให้เห็นกันแบบตำแหน่งต่อตำแหน่ง ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูพร้อมกันเลย
ทางฝั่งเจ้าถิ่นทัพ “ไก่เดือยทอง” เชื่อว่า อันโตนิโอ คอนเต้ จะยังคงส่งประตูมือหนึ่งอย่าง อูโก้ โยริส มาประจำการเฝ้าเสาอย่างเคย ทั้งลูกนิ่งการอ่านเกม และความเก๋าในการสั่งการในแผงหลังถือว่ายังไว้ใจได้ ส่วนทางทีมเยือนทัพ “หงส์แดง” ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ “หงส์แดง” คงไม่ต้องตัดสินใจอะไรให้ยุ่งยาก ยั่งมั่นใจจะใช้มือหนึ่งอย่าง อลีสซง เบ็คเกอร์ ต่อไปแบบไม่ต้องสงสัย
จะว่าไปแล้วตำแหน่ง ผู้รักษาประตู ถือเป็นตำแหน่งที่ทั้ง 2 ทีม มีความแข็งแกร่งด้วยกันทั้งคู่ ทั้ง อูโก้ โยริส และ อลีสซง เบ็คเกอร์ ล้วนเป็นนายด่านฝีมือดี โดยดูจากผลงานตั้งแต่เปิดฤดูกาลมาก็เซฟกระจุยกระจายไปหลายครั้ง
อย่างไรก็ดี หากเทียบฝีไม้ลายมือกันแล้ว คงต้องบอกว่า ทั้ง 2 คน ต่างก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะ อลีสซง เบ็คเกอร์ ที่ช่วงหลังออกลายเซฟจุดโทษได้หลายครั้ง อีกทั้งยังเป็น ผู้รักษาประตูที่เล่นบอลด้วยเท้าได้อย่างดี แถมยังเปิดบอลให้เพื่อนทำประตูได้อยู่เป็นประจำ หากกองหลังไม่ทำพลาดท่าเสียทีก็ถือเป็นนายด่านที่เหนียวหนึบไม่แพ้ใครในลีกแน่นอน
ส่วน อูโก้ โยริส แม้มีอายุมากแล้ว ความว่องอาจจะไม่เท่าเด็กหนุ่มอย่าง อลีสซง แต่การอ่านเกม และการสั่งการในแผงหลังถือว่ายังไว้ใจได้ แต่ถึงอย่างนั้นการใช้เท้าของ โยริส ในจังหวะเติมเกมบุกถือว่ายังไม่ดีเท่าทีมเยือน
ฟันธง : ลิเวอร์พูล เหนือกว่าไม่มาก
สำหรับเจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในเวลานี้ บอกเลยว่าเป็นมาตราฐานที่ดีทำให้ บรรดากองเชียร์ และ ผู้จัดการทีมยังเชื่อใจได้โดยเฉพาะแผงหลังอย่าง ดาวินซอน ซานเชซ, เอริค ไดเออร์, เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ และ อิวาน เปริซิช ที่ฟอร์มกำลังเข้าฝัก ทำเกมรับและรุกได้ดี แต่ข้อเสียก็มีเพราะกองหลัง สเปอร์ส ส่วนใหญ่ความเร็วจะน้อยกว่า แต่เรื่องลูกกลางอากาศถือว่าใช้ได้
ส่วนตัวสำรองอย่าง เอเมอร์สัน รอยัล ก็ยังถือว่าเชื่อใจได้ แต่ถึงอย่างนั้น ทีมต้องเสียผู้เล่นฟอร์มดีอย่าง คริสเตียน โรเมโร่ ที่ต้องพักหลายสัปดาห์ จากการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อน่อง แต่ถึงอย่างนั้น ขุมกำลังของ คอนเต้ ก็ยังหมุนเวียนทดแทนได้อย่างดี เหลือแต่ทีเด็ดทีขาดการทำประตูเท่านั้นที่จะยังต้องปรับกันต่อไป
ส่วนกองหลังทีมเยือนอย่างทัพ ลิเวอร์พูล ถือว่าเจอคราวเคราะห์ช้ำกรรมซัดเหลือเกิน มีผู้เล่นบาดเจ็บเยอะมาก โดยตัวหลักที่จะทำหน้าที่คุมเกมแดนหลัง ยังคงต้องฝากในฝีมือ เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ที่คาดว่าจะเป็นตัวหักในแผงหลัง โดยจะมี โจ โกเมซ ที่จะยืนคู่กันในแผงเกมรับ
ส่วนแบ็คทั้งสองข้างจะเป็น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โดยมี คอสตาส ซิมิคาส คอยเป็นสำรองคอยทดแทนในตำแหน่งวิงแบ็คทางฝั่งซ้าย จากที่ผ่านมาหลายนัด กองหลังของ “หงส์แดง” เป็นจุดอ่อนอย่างมากในเวลานี้ ที่ขึ้นบุกแล้วลงไม่ทัน ทำให้หลายทีมในพรีเมียร์เจาะทะลวงได้ง่ายกว่าก่อนมากๆ
เนื่องจากตัวหลักอย่าง โฌแอล มาติป รวมถึง อิบราฮิมา โกนาเต้ ที่เป็นตัวหลักในแผงแนวรับพากันเจ็บ และหาก ขุมกำลังกองหลังของ “หงส์แดง” เจ็บเพิ่มอีกคราวนี้จะเป็นปัญหาใหญ่อย่างมาก เพราะตัวเลือกแทบไม่เหลือให้ใช้งานแล้ว ดูทรงแล้วน่าจะเจอการโหมบุกอย่างหนักจากฝั่งเจ้าบ้าน งานนี้ทีมเยือน จะทนได้สักกี่น้ำงานนี้ต้องวัดใจกันกับแผงหลังกันหน่อย
ฟันธง : ทัพ “ไก่เดือยทอง” เหนียวแน่นกว่า
ทางฝั่งเจ้าบ้านทัพ “ไก่เดือยทอง” บอกเลยว่าความเร็วในแดนกลางอาจจะจัดจ้านสู้เจ้าถิ่นลำบาก แต่ความแน่นอน การครองเกมดูแล้วเหนียวแน่นกว่าแน่นอนโดยเฉพาะมี ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก เป็นตัวคุมจังหวะเกม แถมการปะทะเบียดแย่งก็ทำได้อย่างดี รวมถึง โรดริโก เบนตานคูร์, อีฟส์ บิสซูม่า และ ไรอัน เซสเซยง ที่คอยป่วนแดนหลังได้ด้วย ซึ่งดูแล้วไม่ขี้เหร่เลย สำหรับแผงกองกลางตัวหลักของทีมเยือน
ส่วนตัวสำรองก็ยังมีตัวทดแทนอย่าง เจด สเปนซ์ ก็ยังคงต้องนั่งรอโอกาสต่อไปเพราะยังฉายแสงให้ทีมได้ยังไม่มากพอ แต่ที่เสียดายคือ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ที่ตอนนี้ยังต้องรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ ซึ่งเป็นตัวขึ้นเกมที่ดีและการที่ไม่มีเขาในสนามทำให้ เกมบุกนั่นลดประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนขุมกำลังของทีมเยือนทัพ “หงส์แดง” บอกเลยว่ากองกลางของทีมในเวลานี้ ดูปวกเปียกไร้ความคิดที่จะสร้างเกมแบบดุดันในการพาบอลไปข้างหน้า อีกทั้งตัวบาดเจ็บก็เยอะมาก ส่วนตัวหลักก็อายุเยอะ ทำให้ขับเคลื่อนเกมได้ช้า โดยเฉพาะ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ช่วงหลังเริ่มโรยราลงทุกที ยังปั้นเกมไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน ส่วน ติอาโก้ อัลคันทาร่า ก็ยังไว้ใจได้ แต่ส่วนใหญ่จะหายไปจากอาการบาดเจ็บค่อนข้างเยอะ ส่วนกองกลางที่เป็นตัวยืนให้ทีมก็ยังยกให้ ฟาบินโญ่ ที่ยังเป็นตัวหลักและยังคงมาตราฐานตัวเองได้ดี
ส่วนกองกลางตัวรุกอย่าง ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ และ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ถือว่ายังต้องหาประสบการณ์ต่ออีกสักหน่อย ยังเฉิดฉายได้ยังไม่สุด อีกทั้งตัวสำรองอย่าง เจมส์ มิลเนอร์ นั้นก็มีอาการบาดเจ็บคาดว่าลงสนามไม่ได้อย่างแน่นอน รวมถึง อาตูร์ เมโล่ และ นาบี เกอิต้า ที่ยังต้องรักษาตัวกันยาวๆไปไม่ได้ลงเล่นแน่นอน
เกมนี้แดนกลาง น่าจะเป็นพื้นที่สำคัญ ที่ทั้ง 2 ทีมต่างต้องชิงความได้เปรียบกัน และจะได้วัดฝีมือกันแบบเต็มๆ ซึ่งด้วยผลงานบอกเจ้าถิ่นมาทรงเหนือกว่า ทั้งความเร็ว การปะทะ รวมถึงการขึ้นเกมไปแดนหน้าไปทำประตูได้เองที่มีความเฉียบคมไม่แพ้กองหน้า
ฟันธง : สเปอร์ส เฉียบกว่า
ทางเจ้าบ้าน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ งานนี้ต้องฝากความหวังไว้กับ แฮร์รี่ เคน คนเดียวเสียแล้ว แม้ตัวเขาจะเป็นตัวเบิกร่องสกอร์ให้กับทีมอยู่เรื่อยๆ แม้มีโอกาสเพียงครั้งเดียวก็สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ ซึ่งนักว่าเป็นกองหน้าเพชฌฆาตอย่างแท้จริง
แต่การขาดขุมกำลังอย่าง ริชาร์ลิซอน และ ซน ฮึง มิน ที่บาดเจ็บแลัยังต้องรักษาตัวเองอยู่นั้น เป็นเรื่องที่ลำบากในแดนหน้าไม่น้อย เพราะยากที่จะมีใครเล่นคู่หน้า กับ เคนได้อย่าง ลงตัวในตอนนี้ยังหาไม่ได้ ถือว่างานนี้เจ้าถิ่นฝากความหวังกับ เคน คนเดียวล้วนๆ
ส่วนทัพหน้าทีมเยือ ทัพ “หงส์แดง” ถือว่าได้เปรียบเจ้าบ้านสักหน่อย หลังที่ไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บในแดนหน้ามากมาย เท่ากองหลังและกลาง โดยเจ้าเก่าหน้าเดิมอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คนเดิมที่เวลานี้ยังโชว์ฟอร์มไม่ได้ฉูดฉาดแบบเมื่อก่อน แต่ก็ยังเป็นที่พึ่งให้ทีมได้ ส่วน โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เริ่มมีฟอร์มที่ดีกลับมายิงได้จ่ายคล่อง แต่อายุและร่างกาย การโดนปะทะเข้าชนก็บอบบางลงเห็นได้ชัดและเสียบอลง่ายไป ส่วน ดาร์วิน นูนเญซ ก็เริ่มมีความมั่นใจจากการเริ่มพังประตูได้อยู่เป็นประจำไม่มากแต่ต่อเนื่องก็ถือว่า เริ่มเข้าใจระบบทีมและเล่นประสานงานกับรุ่นพี่ในทีมได้ดีแล้ว
ทั้งนี้ทีมยังคงไม่สามารถใช้งาน ดิโอโก้ โชต้า และ หลุยส์ ดิอาซ เพราะได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าทำให้ต้องพักยาวเป็นเดือนๆ ซึ่งการขาดผู้เล่นสองคนนี้ไป ทำให้ทีมลดประสิทธิภาพการพังประตูไปเยอะเลยทีเดียว
หากวัดกันตามศักยภาพแล้ว หากทั้งสองทีมผู้เล่นฟอร์มท็อปกันทั้งสองฝั่ง คงต้องบอกว่า แนวรุกของฝั่ง “หงส์แดง” ดูดีกว่า เพราะมีขุมกำลังที่มากกว่า และ ความอันตรายของ ซาลาห์ และ นูนเญซ ก็เริ่มจับคู่กันได้น่ากลัวแล้ว ไม่ว่าจะทั้งความเร็ว ลูกกลางอากาศ
ส่วนเจ้าถิ่น เหลือ แฮร์รี่ เคน แค่คนเดียวหากบาดเจ็บ หรือเกิดอะไร จะไม่มีกองหน้าให้ใช้ นัดนี้คาดว่า คอนเต้ คงไม่ให้นักเตะเข้าจังหวะแบบเสี่ยงๆ น่าจะเซฟตัวเองไว้เผื่อเล่นบอลโลกด้วยเป็นแน่
ฟันธง : หงส์แดง เหนือกว่า
————————————————-
วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่ – ซิมทรูชมทีมโปรดฟรี!
รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ
อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก
หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก
This website uses cookies.