เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล รู้สึกยินดีกับฟอร์มการเล่นของ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ หลังจากที่หงส์แดงถล่มเรนเจอร์ส 7-1 ที่ไอบร็อกซ์ สเตเดี้ยม เมื่อคืนที่ผ่านมา (พุธที่ 12 ตุลาคม 2565) แต่เจ้าตัวก็ยังขอยกย่องผู้เล่นอื่นๆ อีก 6 คนเมื่อถูกถามเกี่ยวกับดาวเตะชาวชาวบราซิล ทีมของคล็อปป์ ทำได้หกประตูในครึ่งหลังในกรุงกลาสโกว์เริ่มจากฟีร์มิโน่ช่วยให้ทีมขึ้นนำ 2-1 หลังจากเป็นผู้ทำประตูตีเสมอในครึ่งแรก ก่อนที่ดาร์วิน นูนเญซ จะทำประตู 3-1 จากนั้นโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองก็ทำแฮตทริกอย่างรวดเร็วภายในหกนาที และฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ปิดท้ายค่ำคืนอันยอดเยี่ยมด้วยประตูที่เจ็ด ทำให้โอกาสผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแชมเปี้ยนส์ ลีก ของลิเวอร์พูลสดใส
และเมื่อถามถึงฟีร์มิโน่ ที่ช่วยให้ทีมคัมแบ็คจากตามหลังกลับมานำ 3-1 จาก 2 ประตูของเขารวมไปถึงอีก 1 แอสซิสต์ คล็อปป์ก็กล่าวกับเดส เคลลี่ ของ BT Sport ว่า “ประตู (แรก) เป็นอะไรที่น่าชื่นชมจากคอสตาส (ซิมิกาส) เราต้องการไปที่นั่น [เตะมุมไปยังเสาใกล้] แต่คุณต้องเข้าถึงบอล (ตรงนั้น)” “มันเป็นประตูที่ยอดเยี่ยม ลูกตีเสมอที่ยอดเยี่ยม สำคัญมาก ใช่ เขาเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม บอกตามตรง คืนนี้ผมไม่ค่อยเห็นคนที่เล่นไม่ดี ฮาร์วีย์ [เอลเลียตต์] เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม, ฟาบิโอ (คาร์วัลโญ่) เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม หมายเลข 6 ทั้งสอง (ฟาบินโญ่ และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน) ทำได้ดีตั้งแต่เริ่มต้นจริง, ตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ (อิบราฮิมา โกนาเต้ และเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค) ก็ยอดเยี่ยม”
“ทุกคนทำได้อย่างถูกต้อง ในเกมที่ยากซึ่งอาจยากกว่านี้มาก นั่นเป็นเหตุผลที่ผมพอใจจริงๆ” คล็อปป์กล่าวเสริมว่า “จริงๆ แล้วผมชอบครึ่งแรกอยู่แล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างน้อยก็ส่วนใหญ่ของมัน เราเสียประตูซึ่งพวกเขาทำได้ดีมาก แต่เราตอบสนองได้ดี และในช่วงครึ่งแรกที่เราเล่นได้ดีนั้นเราเล่นระหว่างแนวต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม” “เรารู้ว่ามันค่อนข้างเหนื่อยสำหรับเรนเจอร์สเพราะมันยากที่จะป้องกันเราในช่วงเวลาเหล่านี้ ใช่แล้วดาร์วิน [นูนเญซ] เปิดกล่องและโมก็เช่นกัน ใครทำประตูได้อีกนะ ฮาร์วีย์! ทั้งหมด 6 คน”
คล็อปป์ พอใจกับชัยชนะ 7-1 ของทีมและเผยเป็นนัยว่าเขาและทีมของเขาจะเพลิดเพลินกับเบียร์เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะ “เรามักจะดื่มเบียร์กันหลังเกมเยือน มันนานมาแล้วตั้งแต่ผมดื่มครั้งล่าสุด เราอาจจะเมากันอีกครั้ง” ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดตลอดเกมและดูเหมือนเขาจะสนุกกับตัวเองอีกครั้ง “เรามีการพูดคุยที่ดีในช่วงพักครึ่ง เราเสียประตู (ให้กับสก็อตต์ อาร์ลฟิลด์) ทำประตูตีเสมอ และมีช่วงเวลาดีๆ ในวงการฟุตบอล ในท้ายที่สุด เราต้องทำให้ชัดเจนในแดนสาม และเห็นได้ชัดว่ามันได้ผล ทุกประตูยอดเยี่ยมมาก”
คล็อปป์นำซาลาห์ลงมาในนาทีที่ 68 ทำให้เขาสามารถทำแฮตทริกที่กลายเป็นการทำลายสถิติ โดยเจ้าของเดิมสำหรับสถิติทำแฮตทริกเร็วสุดในแชมเปี้ยนส์ ลีก ก็คือ บาเฟติมบี้ โกมิส ซึ่งทำได้สามประตูในเจ็ดนาทีให้ทีมลียงที่เจอกับดินาโม ซาเกร็บเมื่อเดือนธันวาคม 2011 “โมก็คือโม” คล็อปป์บอกกับ beIN Sports หลังเกม “แฮตทริกที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์แชมเปี้ยนส์ ลีก นั่นคือสิ่งที่พิเศษ”
All of Liverpool’s goals vs Rangers – what a delight! Bobby Firmino, Mo Salah and Darwin Nunez – tidy! A hat trick of assists for Diogo Jota! pic.twitter.com/4WWqfUN5WH
— Imani W – Women In Footie ⚽️❤️🇺🇸 (@imanilfc) October 13, 2022
ที่มาของภาพ: gettyimages.com
This website uses cookies.