Football Sponsored
Categories: ฟีฟา

แถลงจับกุมเครือข่ายยาเสพติดชายแดนใต้ ยึดของกลางรวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท

Football Sponsored
Football Sponsored

เผยแพร่:
  ปรับปรุง:


ยะลา – แม่ทัพภาค 4 ร่วมกับตำรวจภาค 9 แถลงข่าวจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมยึดของกลางรวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท

วันนี้ (12 ก.พ.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จ.ยะลา พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พล.ต.ท.มินกร รังมาตย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้ร่วมกันแถลงข่าวการปฏิบัติการตามแผนยุทธการพิทักษ์นิบง 1/64 ในการขยายผลการติดตามจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่ได้ให้นโยบายเร่งด่วนในเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเน้นให้ทุกภาคส่วนร่วมกันดำเนินการในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดให้เห็นผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการติดตามยึดทรัพย์ของกลุ่มเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติด เพื่อเป็นการตัดวงจรการค้าขายยาเสพติดในทุกระดับ

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานด้านการปราบปรามยาเสพติด ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดสืบสวน ติดตามจับกุมเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดในทุกระดับพื้นที่ ตั้งแต่ชุมชน ตำบล อำเภอ จังหวัด จนถึงระดับประเทศ และครอบคลุมไปยังต่างประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน รวมถึงการตัดวงจรการค้าขายยาเสพติด โดยการติดตามยึดทรัพย์เครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดให้มากที่สุด และให้ทำอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งในส่วนของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้สั่งการ และกำชับให้กำลัง 3 ฝ่าย ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมขยายผลยึดทรัพย์เครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ที่สร้างปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

จนเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ยะลา ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.สุธิตา แสนสุด นายหายอ ลือมูซอ และนายสุนทรี แวลาเตะ พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 30,000 เม็ด เหตุเกิดหลังบ้านเลขที่ 10/11 หมู่ 4 ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การยืนยันว่า ยาบ้าของกลางดังกล่าวเป็นของ นายแบมะ หรือนายธีระรักษ์ จันทรรังษี นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดขยายผลของ ภ.จว.ยะลา ได้ร่วมกันสืบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติดของนายแบมะ ดังกล่าว จนกระทั่งสามารถเสนอขออนุมัติต่อเลขาธิการ ป.ป.ส. เพื่อออกหมายจับ นายธีระรักษ์ กับพวกได้รวม 6 คน และศาลจังหวัดยะลา ได้ออกหมายจับนายธีระรักษ์กับพวกรวม 6 คน ประกอบด้วย 1.นายธีระรักษ์ จันทรรังษี อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/6 หมู่ 4 ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา 2.นายอัสซานุสซี สามะ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/3 หมู่ 4 ต.เปาะเส้ง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา 3.น.ส.สุนิตา กูโน อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 344 หมู่ 1 ถนนยะลา-โกตา ต.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา 4.น.ส.มชิมา (นามสมมติ) อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 4 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา 5.น.ส.ซอฟียา กิ้มเกี้ยว อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/17 หมู่ 1 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ 6.น.ส.พัชรินทร์ เหมโก อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 ซอย 5 กาญจนวณิช ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.ยะลา

จากนั้นในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และ ป.ป.ส. ปปง. ดีเอสไอ และสรรพากร ได้ร่วมกันเปิดแผนยุทธการ “พิทักษ์นิบง 1/64” เพื่อติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับดังกล่าว พร้อมกับยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามยาเสพติด พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน โดยมีการปิดล้อมตรวจค้นใน 3 จังหวัด คือกรุงเทพมหานคร 1 จุด อ.หาดใหญ่ จำนวน 8 จุด อ.สะบ้าย้อย จำนวน 6 จุด อ.เทพา จำนวน 1 จุด อ.เมืองยะลา จำนวน 2 จุด และ อ.รามัน 1 จุด รวม 19 จุด

ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้ง 6 คน และยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา 1 คน คือ นายมะรูดิง มะหิเละ ที่อยู่ 29/5 หมู่ 2 ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เป็นหมายจับของ บก.ปส.3 ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต สมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้สมคบกันแล้ว

โดยผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ที่ถูกจับพร้อมของกลางยาบ้า 1,000 เม็ด พืชกระท่อม และยาแก้ไอ ประกอบด้วย 1.น.ส.มชิมา (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ที่อยู่ 24 หมู่ 4 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา 2.นายอนัส (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ที่อยู่ 44 หมู่ 7 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา 3.ด.ช.ลือชัย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ที่อยู่ 34 หมู่ 8 ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา 4.นายอนุชา สาและ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 122/8 หมู่ 2 ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา 5.นายอิรฟาล ตอลอ อายุ 23 ปี ที่อยู่ 107/4 หมู่ 1 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา และ 6.นายอิสมาแอล เต็นหัด อายุ 22 ปี ที่อยู่ 54/38 หมู่ 2 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา นำทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้นั้น มีดังนี้ 1.รถบัส 1 คัน รถยนต์ 12 คัน รถจักรยานยนต์ 15 คัน 2.อาวุธปืนยาว 2 กระบอก อาวุธปืนสั้น 1 กระบอก 3.เงินสด 180,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร 29 เล่ม ตู้เซฟ 2 ตู้ ทองรูปพรรณหลายรายการ 4.วัว 14 ตัว 5.ไอแพด 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ และ 6.โฉนดที่ดิน และอุปกรณ์การเกษตรอีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ประมาณ 40 ล้านบาท

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.