OFFICIAL: สเปนจับมือโปรตุเกสยื่นจัดบอลโลก 2030
สองชาติมหาอำนาจของวงการลูกหนังยุโรปจับมือเป็นพันธมิตรเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2030 รอบสุดท้าย
สเปน และ โปรตุเกส เสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมจัดศึกฟุตบอลโลก 2030 รอบสุดท้าย
ทั้งสองชาติเริ่มศึกษาความเป็นไปได้ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ก่อนล่าสุดพวกเขาจะตกลงจับมือเป็นพันธมิตรกันแล้ว
“การตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแค่เป็นก้าวย่างสำคัญของสองสมาคม แต่ยังเป็นก้าวสำคัญของสองประเทศด้วย” หลุยส์ รูเบียเลส ประธานสมาคมฟุตบอลสเปน กล่าว
Editor Picks
- ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก 2020-21
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถ่ายช่องไหน? วิธีดูแมนฯ ยูฯ พบเวสต์แฮม
- โปรแกรมถ่ายทอดสดฟุตบอล – ดูบอลสดคืนนี้ (พรีเมียร์ลีก, ไทยลีก, ลาลีกา, บุนเดสลีกา, แชมเปี้ยนส์ลีก, ฯลฯ)
- IN NUMBERS : ลิโอเนล เมสซี ยิงได้กี่ประตูในชีวิตค้าแข้ง?
“มีน้อยสิ่งมากที่จะให้ความรู้สึกตื่นเต้นกับเรามากกว่าโอกาสจัดฟุตบอลโลก และเราไม่สามารถหาพาร์ทเนอร์ที่ดีไปกว่าโปรตุเกสได้อีกแล้ว เราจึงไปจับมือกับสมาคฟุตบอลโปรตุเกส”
ทั้งนี้ กระบวนการสรรหาเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2030 ของสหพันธ์ลูกหนังนานาชาติ (ฟีฟา) จะเริ่มขึ้นในปี 2022 และจะประกาศผลตัดสินในปี 2024
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.