หงส์แดงเก็บชัยชนะในศึก UCL ได้สองนัดรวด แต่ก็ต้องสังเวยการที่แนวรับชาวบราซิลได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ครึ่งแรก
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2020-2021 นัดที่ 2 ของกลุ่มดี เป็นการพบกันระหว่าง ลิเวอร์พูล เปิดรังเหย้า แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ มิดทิลแลนด์
เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเจ้าบ้าน ตัดสินใจใส่ชื่อสามประสาน SMF ได้แก่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโม มาเน และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน เป็นเพียงแค่ตัวสำรอง โดยเลือกใช้ ดีว็อก โอริกี้ ค้ำหน้าเป้าคอยทำเกมรุกร่วมกับ เซอร์ดาน ชากิรี, ทาคุมิ มินามิโนะ และ ดิโอโก้ โชต้า ในระบบ 4-2-3-1
ด้านทีมเยือนของ ไบรอัน ปริสเก้ วางหมากมาในแผน 4-2-3-1 เช่นกัน ด้วยการใช้กองหน้าตัวเป้าเป็น โซรี กาบ้า คอยประสานงานในแแผงเกมรุกร่วมกับ อันเดอร์ส เดรเยอร์, ปิโอเน ซิสโต้ และ อาเวอร์ มาบิล
ครึ่งแรกดำเนินมาถึงนาทีที่ 30 ฝั่งของลิเวอร์พูลต้องมาเสียแนวรับตัวเก่งอย่าง ฟาบินโญ ซึ่งบาดเจ็บกล้ามเนื้อขากระตุกจนฝืนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ต้องเปลี่ยนตัวสำรองคนแรกด้วยการส่ง รีส วิลเลียมส์ กองหลังดาวรุ่งวัย 19 ปี ลงสนามมาแทน ก่อนที่เกมในช่วง 45 นาทีแรก จะจบลงด้วยสกอร์ 0-0
ครึ่งหลังลิเวอร์พูลมาได้ประตูขึ้นนำ ในนาทีที่ 55 จากจังหวะที่ ชากิรี จ่ายทะลุช่องเข้าเขตโทษให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ไหลต่อให้ โชต้า ตวัดแปด้วยขวาจ่อ ๆ หน้าปากประตูตุงตาข่าย ส่งให้หงส์แดงออกนำ 1-0
ช่วงทดเวลานาทีที่ 90+3 ลิเวอร์พูลมาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซึ่งมาเป็นตัวสำรองแทน โอริกี้ ตั้งแต่นาทีที่ 60 ไปโดน เปาลินโญ แบ็คซ้ายทีมเยือนตัดฟาวล์ขณะกำลังจะหลุดเดี่ยวจนล้มลงไป ก่อนที่ตัวของ ซาลาห์ จะลุกขึ้นมาสังหารเองไม่พลาด ช่วยให้เจ้าบ้านหนีห่างเป็น 2-0
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นลิเวอร์พูลชนะไป 2-0 เก็บ 6 แต้มเต็ม จากการชนะ 2 นัดรวด นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มดี ส่วนมิดทิลแลนด์แพ้ 2 นัดรวด จมอยู่อันดับ 4 สุดท้ายของกลุ่มดี
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลิสซอน เบ็คเกอร์; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, ฟาบินโญ (รีส วิลเลียมส์ น.30), แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน; เจมส์ มิลเนอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (จอร์จินิโย ไวจ์นัลดุม น.46); เซอร์ดาน ชากิรี, ทาคุมิ มินามิโนะ (ซาดิโอ มาเน น.60), ดิโอโก้ โชต้า (โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน น.81); ดีว็อก โอริกี้ (โมฮาเหม็ด ซาลาห์ น.60)
สำรองไม่ได้ใช้ : อาเดรียน, เคอร์ติส โจนส์, ควีวีน เคลเลเฮอร์, เจค เคน, เนโก้ วิลเลียมส์
ใบเหลือง – เจมส์ มิลเนอร์ น.41
มิดทิลแลนด์ (4-2-3-1) : มิคเคล แอนเดอร์เซน; โยเอล อันเดอร์สสัน, เอริค สเวียตเชนโก้, อเล็กซานเดอร์ โชลซ์, เปาลินโญ; แฟรงค์ ออนเยก้า, เยนส์ คายุสเต้ (โบซิดาร์ คราเยฟ น.81); อันเดอร์ส เดรเยอร์, ปิโอเน ซิสโต้ (เอวานเดอร์ น.72), อาเวอร์ มาบิล (มิกาเอล แอนเดอร์สัน น.66); โซรี กาบ้า (ลูก้า ไฟฟ์เฟอร์ น.81)
สำรองไม่ได้ใช้ : ดิออน คูลส์, วัลเดมาร์ เบียร์คโซ ธอร์เซน, มานเจรการ์ เจมส์, ลาสเซ วิเบ้, โอลิเวอร์ อ็อตเตเซน, นิโคลัส มาดเซน, นิโคลัส ดีห์ร, กุสตาฟ อิซาคเซน
ใบเหลือง – อเล็กซานเดอร์ โชลซ์ น.19, แฟรงค์ ออนเยก้า น.25, เยนส์ คายุสเต้ น.32, เปาลินโญ น.90+3
เกม | ลิเวอร์พูล – มิดทิลแลนด์ |
วันที่ | คืนวันอังคารที่ 27 ตุลาคม 2563 |
เวลา | 3.00 น. (เช้ามืดวันพุธ) |
สนาม | แอนฟิลด์ |
ลิเวอร์พูล เกมนี้จะยังไม่มี เวอร์จิล ฟาน ไดค์, อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน และ คอนสแตนตินอส ซิมิกาส ที่มีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ ติอาโก้ อัลตันทารา และ โจเอล มาติป ต้องรอเช็คความฟิต แต่ข่าวดีคือน่าจะได้ อลิสซอน กลับมาเฝ้าเสาได้อีกครั้ง แนวรับใช้ โจ โกเมซ จับคู่กับ ฟาบินโญ แดนกลางใช้ นาบี เกอิต้า ประสานงานกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ เคอร์ติส โจนส์ แนวรุกใช้สามประสาน ดิโอโก โจตา, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ทาคุมิ มินามิโนะ คอยล่าตาข่าย
มิดทิลแลนด์ อยู่ในสภาพทีมค่อนข้างพร้อมขาดเพียง โอลิเวอร์ โอลเซน และ คริสเตียน รีส ที่มีอาการบาดเจ็บ แนวรับใช้ เอริค เวียตเชนโก้ จับคู่กับ อเล็กซานเดอร์ โชลซ์ แดนกลางใช้ แฟรงค์ ออนเยก้า ประสานงานกับ เยนส์ คายุสเต้ แนวรุกเป็น อันเดอร์ส เดรเยอร์, ปิโอเน ซิสโต และ เอเวอร์ มาบิล คอยปั้นเกมรุกให้ โซรี คาบา จบสกอร์
ลิเวอร์พูล
อลิสซอน(GK)
อาร์โนลด์, โกเมซ, ฟาบินโญ, มิลเนอร์
เกอิต้า, เฮนเดอร์สัน, โจนส์
ซาลาห์, มินามิโนะ, โจตา
มิดทิลแลนด์
แฮนเซน(GK)
แอนเดอร์สัน, เวียตเชนโก้, โชลซ์, เปาลินโญ
ออนเยก้า, คายุสเต้
เดรเยอร์, ซิสโต, มาบิล
คาบา
ลิเวอร์พูล ประเดิมรอบแบ่งกลุ่มได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อบุกเอาชนะ อาแย็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ได้ถึงถิ่น 1-0 ขณะที่ มิดทิลแลนด์ ทำผลงานไม่ดีนักเมื่อพ่ายคารังต่อ อตาลันตา ไปขาดลอย 0-4
ต ิดตามข่าว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
โ ปรแกรมการแข่งขันคู่อื่นๆ
This website uses cookies.