Football Sponsored
Categories: ฟีฟา

เกมรุกโคตรทื่อ,น่าพอใจคนเดียว!ตัดเกรดแข้งลิเวอร์พูลเกมพ่ายเชลซีคาบ้าน

Football Sponsored
Football Sponsored

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ปราชัยคารัง แอนฟิลด์ 5 นัดติดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร หลังพ่าย เชลซี 0-1 ในศึก พรีเมียร์ลีก นัดบิ๊กแมตช์ เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่ทัพนักเตะ “เดอะ เร้ดส์” เล่นได้น่าผิดหวัง เกมรุกไม่มีความดุดัน แถมปราศจากความหลากหลาย และนี่คือผลสอบของลูกทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ แต่ละคนในแมตช์นี้

11 ผู้เล่นตัวจริง 

 – อลีสซง เบ็คเกอร์ : 6.5
  สติยังไม่ค่อยนิ่ง แต่ก็มีเซฟสวยๆ ให้เห็นช่วงครึ่งหลัง ส่วนประตูที่เสียไปถือว่าสุดปัญญาจริงๆ 

 – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ : 6
  เป็นจุดที่โดน เชลซี เจาะใส่ทั้งวัน และเอาแทบไม่ค่อยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการดวลกับ ติโม แวร์เนอร์ หรือ เมสัน เมาท์ ส่วนเกมรุกก็ไม่มีทีเด็ด แม้มีครอสบอลสวยๆ 2-3 หน

 – โอซาน คาบัค : 6.5
  แม้ไม่มีอะไรผิดพลาดรุนแรง แต่ก็มีหลายครั้งที่เล่นแบบหลวมๆ ตามประกบตัวรุกทีมคู่แข่งไม่ค่อยดี 

 – ฟาบินโญ่ : 6.5
  ถูกใช้งานทันที หลังฟื้นตัวจากปัญหาบาดเจ็บ จังหวะการเล่นยังไม่ค่อยได้ แม้มีสกัดบอลสวยๆ ในช่วงครึ่งหลัง ส่วนจังหวะเสียประตูก็น่าจะกดดันใส่ เมสัน เมาท์ ได้ดีกว่านี้ 

 – แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน : 7
  เกมรับไม่ได้เจอทดสอบอะไรมากมาย แต่ก็มีเคลียร์บอลบนเส้นหนึ่งครั้งช่วงครึ่งหลัง ส่วนเกมรุกแม้ไม่โดดเด่น แต่ขยันขึ้นมาช่วยทีมตลอด น่าเสียดายที่มีโอกาสประสานงานกับ มาเน่ น้อยไป 

 – จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม : 6
  ไม่สามารถช่วยให้ทีมมีแดนกลางเหนือกว่าคู่แข่ง แต่ลูกยิงตรงกรอบ “หนเดียว” ของทีมมาจากเขานี่แหละ (ลูกโหม่งช่วงครึ่งหลัง)

 – ติอาโก้ อัลกันตาร่า : 5.5
  เป็นอีกเกมที่ไม่ได้ทำประโยชน์ แถมโดน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ข่มมิดในการสู้ตรงแดนกลาง

 – เคอร์ติส โจนส์ : 6
  ทำได้ดีพอสมควรในช่วงครึ่งแรก ครองบอลดี เอาตัวรอดเก่ง แต่ครึ่งหลังหายไปจากเกม  

 – โมฮาเหม็ด ซาลาห์ : 6
  ถึงแม้มีวางบอลเข้ากลางสวยๆ สองหน แต่ฟอร์มโดยรวมถือว่าค่อนข้างน่าผิดหวัง เพราะควรที่จะทำได้ดีกว่านี้ ตลอดทั้งเกมมีโอกาสยิงหนเดียว ก่อนถูกถอดออกช่วงกลางครึ่งหลัง (จริงๆ แล้วน่าจะเป็น มาเน่ หรือ ฟีร์มีโน่ ที่ถูกเปลี่ยนออกมากกว่า)

 – ซาดิโอ มาเน่ :  5.5
  เป็นวันที่น่าผิดหวัง จังหวะที่จะได้ส่องแบบเน้นๆ ช่วงครึ่งแรก ก็ดันยิงวืด ดูเหมือนขาดความมั่นใจไปเยอะ 

 – โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ : 5.5
  ไม่มีความอันตรายใดๆ แถมจับบอลในจังหวะสำคัญๆ ก็ทำได้ไม่ดี

สำรองที่ได้ลงเล่น 

 – ดิโอโก้ โชต้า (แทน โจนส์ น. 62) : 5
  แทบไม่ได้บอล มีส่วนร่วมกับเกมน้อยไปเมื่อเทียบกับเวลาร่วมๆ ครึ่งชั่วโมงที่อยู่ในสนาม 

 – อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (แทน ซาลาห์ น. 62) : 5.5
  ช่วยแท็กเกิ้ลได้ดี แต่สร้างความแตกต่างให้กับทีมไม่ได้ 

 – เจมส์ มิลเนอร์ (แทน ติอาโก้ น. 80) : – 
  ไม่สามารถให้คะแนนได้ 
 

– Subinho –

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.