ลุ้นโชต้าตัวจริง,ฟิลลิปส์คุมหลัง!ส่อง2แผนลิเวอร์พูลเกมดวลฟูแล่ม
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล มีคิวเปิดรัง แอนฟิลด์ รับมือ ฟูแล่ม ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์นี้ หลังจากที่แพ้คาบ้านมา 5 นัดติด จนกลายสถิติใหม่ของสโมสร ทำให้มีความเป็นไปได้ที่เราจะได้เห็นทีมตัวจริงที่แตกต่างไปจากที่ผ่านๆ มา โดยเฉพาะแนวรุกที่ตื้อมากๆ ในระยะหลัง เพราะเล่นกันแบบเดิมๆ และนี่คือแผนการเล่น 2 รูปแบบที่กุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ อาจจะเลือกใช้สำหรับเกมคืนนี้ (อ้างอิงจากเว็บไซต์ thisisanfield.com)
– โชต้า ตัวจริงแทน มาเน่, โรเบิร์ตสัน ได้พัก
แผนนี้เป็นระบบ 4-3-3 ของถนัด แต่แนวรับมีการเปลี่ยนแปลง โดย นาธาเนียล ฟิลลิปส์ จะได้ยืนเซนเตอร์แบ็กคู่กับ ฟาบินโญ่ เนื่องจาก โอซาน คาบัค มีปัญหาบาดเจ็บ ขณะที่จอมเก๋าอย่าง เจมส์ มิลเนอร์ จะได้สตาร์ทเป็นแบ็กซ้ายตัวจริงแทน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ซึ่งน่าจะได้พักแข้งบ้าง หลังจากกรำศึกหนัก
ขณะที่แดนกลางมีความเป็นไปได้ที่ นาบี เกอิต้า จะได้ลงเป็นตัวจริงแทน เคอร์ติส โจนส์ ส่วนอีกสองคนยังคงเป็น จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม กับ ติอาโก้ อัลกันตาร่า เหมือนเดิม และที่น่าสนใจคือสามประสานในแนวรุก ซึ่งงานนี้ คล็อปป์ อาจจะตัดสินใจดร็อป ซาดิโอ มาเน่ เพื่อเปิดทางให้ ดิโอโก้ โชต้า ได้ลงโชว์ฝีเท้าตั้งแต่วินาทีแรก ร่วมกับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
– ซาลาห์ ยืนหอกในระบบ 4-2-3-1
คล็อปป์ อาจจะปรับแผนการเล่นจากเดิมๆ 4-3-3 มาเป็น 4-2-3-1 ซึ่งแผนนี้ โรเบิร์ตสัน จะได้สตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็กซ้ายเหมือนเดิม โดยมี เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ประจำการแบ็กขวา และคู่เซนเตอร์แบ็กเป็น ฟิลลิปส์ กับ ฟาบินโญ่
ไวจ์นัลดุม กับ ติอาโก้ จะได้สตาร์ทในตำแหน่งมิดฟิลด์คู่กลาง ยืนอยู่ด้านหลังสามตัวรุก ซึ่งประกอบไปด้วย ฟีร์มีโน่, โชต้า และ มาเน่ ที่โยกไปยืนทางฝั่งขวา ซึ่งแผนนี้ ซาลาห์ จะรับบทเป็นหน้าเป้าตัวจบสกอร์ ซึ่งถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
– Subinho –
อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.