‘หงส์’คึก!ดวลสิงห์ 2แข้งแซมบ้า’อลิสซอน-ฟาบินโญ่’ส่อคืนทัพ ‘คล็อปป์’ปะทะ’ทูเคิ่ล’บิ๊กแมทช์พรีเมียร์ลีก

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังคงดวลแข้งกันอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อนเหมือนเดิม ในวันพฤหัสบดีนี้มีการปะทะกันอีก 3 คู่ โดยที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ กับ โธมัส ทูเคิ่ล สองกุนซือสัญชาติเยอรมนี จะได้ประลองฝีมือกันเป็นครั้งแรกบนเกาะอังกฤษ และยังมีลอนดอน ดาร์บี้แมทช์ อีกด้วย

ฟูแล่ม-สเปอร์ส เวลา : 01.00 น. “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่มที่ทุกคะแนนมีความสำคัญกับการดิ้นรนหนีตกชั้น นัดล่าสุดเพิ่งบุกไปเสมอกับ คริสตัล พาเลซ 0-0 เกมนี้ไม่มี ทอม เครนีย์ มิดฟิลด์ที่บาดเจ็บ นอกนั้น สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ ไม่มีปัญหาอะไรให้ต้องกังวล จัดทีมชุดใหญ่เต็มสูบ นำโดยแกนหลักอย่างแฮร์ริสัน รี๊ด, ซามโบ้ อองกิสซ่า, อีวาน คาวาเลโร่, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, อเดโมล่า ลุคแมน และจอช มาย่า

ทีมเยือน “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส สลัดความสากด้วยการถล่มเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ มา 4-0 จากการทำสองประตูของ แกเร็ธ เบล เกมนี้ไม่มีปัญหาในการจัดทัพ คนที่ไม่แพ้มีเพียงโจวานี่ โลเซลโซ่ แค่รายเดียวเท่านั้น คาดว่า โชเซ่ มูรินโญ่จะยึดระบบ 4-2-3-1 ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ ทำได้ดีกับการถูกถอยลงยืนคู่มิดฟิลด์กับ ปีแอร์-เอมิล ฮอยเบี๊ยก ส่วนแนวรุกใช้บริการ แกเร็ธ เบล ที่กำลังมั่นใจประสานงานกับ ลูคัส มูร่า และซน ฮึง มิน โดยมี แฮร์รี่ เคน ยืนหน้าเป้า

11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาด : ฟูแล่ม (4-2-3-1) : อัลฟองส์อเรโอล่า, เคนนี่ เตเต้, โยอาคิม แอนเดอร์เซ่น, โทซินอดาราบิโอโย่, แอนโทนี่ โรบินสัน, แฮร์ริสัน รี๊ด, ซามโบ้อองกิสซ่า, อีวาน คาวาเลโร่, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, อเดโมล่าลุคแมน และ จอช มาย่า

สเปอร์ส (4-2-3-1) : ฮูโก้ ญอริส, แซร์ก โอริเย่ร์, ดาวินซอน ซานเชซ, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เซร์คิโอ้ เรกีลอน, ปีแอร์-เอมิล ฮอยเบี๊ยก, ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่, แกเร็ธ เบล, ลูคัส มูร่า, ซน ฮึง มิน และแฮร์รี่ เคน

สถิติการพบกันทั้งสองทีม สเปอร์ส ไม่แพ้ให้กับ ฟูแล่ม มาแล้ว 6 เกมติดต่อกัน โดยเอาชนะได้ถึง 5 ครั้ง และเสมอ 1 ครั้งสุดท้ายที่พลาดท่าให้กับฟูแล่มต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2017

เวสต์บรอมวิช-เอฟเวอร์ตัน เวลา : 01.00 น. เจ้าถิ่น “เดอะ แบ๊กกี้ส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เพิ่งจะเฉือนเอาชนะ ไบรท์ตัน มาได้ 1-0 ยังพอมีโอกาสทำแต้มลุ้นหนีตกชั้น เกมนี้รอเช็คความฟิตของ คีแรน กิ๊บบ์ส ส่วน โรเบิร์ต สน็อดการ์สส์ ที่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยน่าจะไม่มีปัญหาสำหรับเกมนี้ นอกนั้นถือว่าพร้อมทั้งหมด “บิ๊กแซม” จัดทัพในระบบ 4-5-1 อัดแดนกลางให้แน่นไว้ก่อนด้วยการใช้บริการของสองผู้เล่นใหม่ที่เพิ่งไปดึงมาก่อนตลาดเดือนมกราคมปิด อย่าง โอกาย โยคุสลู และเอนสลีย์ เมตแลนด์-ไนลส์ แนวรุกฝากความหวังไว้ที่ คอเนอร์ กัลลาเกอร์, มาเตอุส เปเรยร่า และเอ็มบาเย่ ดิอักเน่

ทางฝั่ง “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ที่กำลังมั่นใจเก็บชัยชนะมา 2 เกมรวด นัดล่าสุดเพิ่งเปิดบ้านเฉือน เซาแธมป์ตันมาได้ 1-0 เกมนี้ยังไม่ได้ใช้บริการ เยอร์รี่ มีน่า และฟาเบียน เดลฟ์ ที่บาดเจ็บนอกนั้นรอเช็คความฟิตผู้เล่นบางราย คาดว่า คาร์โล อันเชล็อต จะกลับมาเล่น 4-3-1-2 แบบไดมอนด์ วาง อับดูลาย ดูคูเร่, อัลลัน และ อันเดร โกเมส เป็นสามประสานในแดนกลาง โดยมี กิลฟี่ ซิกูร์ดสสัน ที่เบียด ฮาเมส โรดริเกซ ไปนั้งสำรองจะยืนเป็นเพลย์เมกเกอร์ทำเกมอยู่ด้านหลังของคู่หัวหอกอย่าง ริชาร์ลิซอน และโดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิ่น

11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาด : เวสต์บรอมวิช (4-5-1) : แซมจอห์นสโตน, ดาร์เนลล์ เฟอร์ลองด์, แซมมี่ อจายี่, ไคล์ บาร์ทลีย์,คอเนอร์ ทาวน์เซ่นด์, โรเบิร์ต สน็อดการ์สส์, เอนลสีย์เมตแลนด์-ไนลส์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, มาเตอุส เปเรยร่า และเอ็มบาเย่ ดิอักเน่

เอฟเวอร์ตัน (4-3-1-2) : จอร์แดน พีคฟอร์ด, เซมุส โคลแมน, เบน ก็อดฟรีย์, ไมเคิ่ล คีน, ลูก้าส์ ดีญ, อับดูลาย ดูคูเร่, อัลลัน, อันเดร โกเมส, กิลฟี่ ซิกูร์ดสสัน, ริชาร์ลิซอน และโดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิ่น

ลิเวอร์พูล-เชลซี เวลา : 03.15 น. เกมบิ๊กแมทช์กลางสัปดาห์ที่แอนฟิลด์ เจ้าถิ่น “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ปลดล็อกเอาชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด มาได้ 2-0 เกมนี้เจอร์เก้น คล็อปป์ ออกมาเปรยว่า อลิสซอน เบ็คเกอร์ และฟาบินโญ่ มีโอกาสที่จะกลับมาลงสนามช่วยทีมอีกครั้ง ในรายของดิโอโก้ โชต้า หายจากการบาดเจ็บแล้ว แต่มีอาการป่วยเล็กน้อย ลุ้นมีชื่อบนม้านั่งสำรอง

คาดว่าเกมนี้จะปรับ 2 ตำแหน่งคือ อลิสซอน เบ็คเกอร์ และฟาบินโญ่ เล่นแทน อาเดรี่ยนและแนต ฟิลิปป์ส ส่วนแดนกลางยังเป็นชุดเดิม คือ ธีอาโก้ อัลคันทาร่า, เคอร์ติส โจนส์ และจอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม แนวรุกไม่เปลี่ยนแปลงอะไรวาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ฟีร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ เป็นสามประสาน

ทีมเยือน “สิงห์บลูส์” เชลซี เพิ่งเปิดบ้านเสมอกับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด มา 0-0 เกมนี้ โธมัส ทูเคิ่ล ที่ยังคุมทีมไม่แพ้ใครนับตั้งแต่มารับงานในอังกฤษ รอเช็คความฟิตของ ตีอาโก้ ซิลวา และคัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ซึ่งดูแล้วอย่างเก่งน่าจะมีชื่อบนม้านั่งสำรอง ทำให้ รีซ เจมส์จะได้รับโอกาสลงเล่นในตำแหน่งวิงแบ๊กขวาแทน

ที่เหลือไม่น่าจะปรับอะไรมาก มี เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และมัตเตโอ โควาซิซ คุมแดนกลาง แนวรุก เมสัน เม้าท์ ยืนพื้นอยู่ที่ว่าจะเล่นกับใครระหว่าง ติโม แวร์เนอร์ หรือฮาคิม ชิเย็ค ส่วนหน้าเป้า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น่าจะจองสัมปทาน

11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาด : ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โอซาน คาบัค,ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ธีอาโก้ อัลคันทาร่า, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม, เคอร์ติส โจนส์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ฟีร์มิโน่ และซาดิโอ มาเน่

เชลซี : เออูอาร์ เมนดี้, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, รีซ เจมส์, เอ็นโกโล่ กองเต้, มัตเตโอ โควาซิซ, เบน ชิลล์เวลล์, ฮาคิม ซีเย็ค, เมสัน เม้าท์ และโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

สถิติการพบกันทั้งสองทีมในทุกรายการ ลิเวอร์พูล ทำได้ดีกว่าเอาชนะ 82 เสมอ 41 และเชลซี ชนะ 64 การเจอกัน6 เกมหลังสุด ไม่มีผลเสมอเลย โดย “หงส์แดง” ชนะ 5 ส่วนเชลซี ชนะ 1

ทางด้าน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงเดินหน้าคว้าชัยต่อเนื่องในทุกรายการต่อไปเป็นนัดที่ 21 หลังจากไล่ถล่ม “หมาป่า” วูล์ฟส์ ลงได้ 4-1 ทำให้พวกเขากวาดไปแล้ว 65 คะแนน จาก 27 นัด และทำให้บริษัทรับพนันถูกกฎหมายของอังกฤษ หั่นราคาแชมป์ไว้ไปไกลถึง 1-1,000 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว