Football Sponsored
Categories: ฟีฟา

โรนัลโด้เตรียมประเดิม! 5 สตาร์พรีเมียร์ลีกน่าจับตามองวีก4 – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2021-22 จะกลับมาฟาดแข้งกันต่อในสัปดาห์นี้หลังจากเบรกให้กับโปรแกรมทีมชาติ โดย 3 นัดที่แข่งกันไปนั้นเราได้เห็นแชมป์เก่า แมนฯ ซิตี้ พลาดท่าพ่ายแพ้แล้ว ขณะที่จ่าฝูงกลายเป็นของ สปอร์ส ผู้ซึ่งคว้าชัยชนะเรียบวุธ ส่วนการลุ้นดาวซัลโวก็ขับเคี่ยวกันสนุกตั้งแต่ต้นฤดูกาล มีนักเตะหลายทำผลงานยอดเยี่ยม พวกเขาก็หวังว่าจะสานต่อสิ่งที่ตัวเองทำไว้ให้ได้และยังมีนักเตะใหม่รอประเดิมสนามในสัปดาห์นี้ด้วย เรามาดูกันว่า 5 สตาร์ที่น่าจับตามองในพรีเมียร์ลีกวีกนี้ใครกันบ้าง

5.แอรอน แรมส์เดล (อาร์เซน่อล)

    สถานการณ์ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของ อาร์เซน่อล เริ่มมีความไม่แน่นอนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานว่ากุนซือ มิเกล อาร์เตต้า ไม่ค่อยปลื้มผลงานของ แบรนด์ เลโน่ โดยเฉพาะในเกมนัดล่าสุดที่เสียประตูให้กับ แมนฯ ซิตี้ ถึง 5 ลูก ทำให้ แอรอน แรมส์เดล มือกาวซึ่งย้ายมาร่วมทัพปืนใหญ่ในซัมเมอร์นี้มีโอกาสลงเฝ้าเสาแทนในเกมพบ นอริช ซิตี้ สัปดาห์นี้

    แรมส์เดล ลงประเดิมสนามไปแล้วในเกมกับ เวสต์บรอมฯ ในศึก คาราบาว คัพ ซึ่งวันนั้นเขาเก็บคลีนชีทได้และทีมคว้าชัยชนะ 6-0 ถือเกมเดียวที่ อาร์เซน่อล ชนะในฤดูกาลนี้ด้วย ล่าสุด “เดอะ ซัน” สื่อชื่อดังเมืองผู้ดีก็รายงานว่า นายทวารชาวอังกฤษได้บอกกับเพื่อนคนสนิทว่าเขาจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในแมตช์ปะทะ “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” ต้องรอดูกันว่าข่าวนี้จะเป็นจริงหรือไม่ แต่อย่างน้อยตอนนี้ เลโน่ คงต้องงัดฟอร์มออกมาให้ได้น่าประทับใจมากที่สุดไม่อย่างนั้นอาจเสียมือหนึ่งไป

4.โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)

    โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยังคงเป็นสตาร์คนสำคัญของ ลิเวอร์พูล แม้ว่า ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ จะเป็นนักเตะที่มีคุณภาพแต่กองหน้าชาวอียิปต์รายนี้มักจะเป็นผู้นำในแนวรุกของทีมเสมอ ซาลาห์ เริ่มต้นฤดูกาลนี้ด้วยการยิง 2 ประตูกับ 2 แอสซิสต์จาก 3 นัดนับเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมมาก เขาเป็นคนยิงจุดโทษช่วยให้ ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอ เชลซี ได้สำเร็จแม้จะน่าเสียดายที่ทีมคว้าชัยชนะไม่ได้ก็ตาม

    สัปดาห์นี้ “หงส์แดง” ส่อแววหมดสิทธิ์ใช้งาน อลีสซง เบ็คเกอร์, ฟาบินโญ่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เนื่องจาก ฟีฟ่า เตรียมแบนผู้เล่นที่ไม่ยอมกลับไปรับใช้ชาติเป็นเวลา 5 วัน ดังนั้นความหวังของแนวรุกยิ่งตกมาอยู่กับ ซาลาห์ มากขึ้น แต่ถ้าหากเขาเล่นได้อย่างมั่นใจเหมือนกับ 3 นัดแรกที่ผ่านมา เกมเยือน ลีดส์ วีกนี้อาจจะมีสกอร์มาฝากแฟนหงส์อีกเช่นเคย

3.เจมี่ วาร์ดี้ (เลสเตอร์ ซิตี้)

    สัปดาห์นี้ เลสเตอร์ ซิตี้ เจองานสุดหินเมื่อต้องเปิดรัง คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดังนั้นพวกเขาต้องทำทุกอย่างให้เพอร์เฟคและเนี้ยบมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้โดยเฉพาะกองหลังที่ต้องรับมือกับแข้งระดับพระกาฬของ “เรือใบสีฟ้า” 

    ส่วนแนวรุกจิ้งจอกคงต้องฝากความหวังไว้กับกองหน้ามากประสบการณ์อย่าง เจมี่ วาร์ดี้ ซึ่งมักจะชอบยิงประตูทีมใหญ่อยู่เป็นประจำ เขามีสถิติยิงประตู แมนฯ ซิตี้ มากถึง 8 ลูกใน 5 ปีหลังสุด แถมฤดูกาลที่แล้วยังกดแฮตทริกใส่ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้อีกด้วย ขณะที่ฤดูกาลนี้ วาร์ดี้ เริ่มต้นด้วยการยิง 2 ประตูจาก 3 เกม ต้องรอดูกันว่าเขาจะเป็นฝันร้ายให้กับ แมนฯ ซิตี้ อีกหรือไม่?

2.มิคาอิล อันโตนิโอ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด)

    มิคาอิล อันโตนิโอ อาจจะไม่ได้ถูกยกย่องขนาดว่าเป็นกองหน้าระดับท็อปของพรีเมียร์ลีก แต่ด้วยฟอร์มตอนนี้แล้วคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาจัดอยู่ในกลุ่มเหล่านั้น ฤดูกาลที่แล้วเขาโชว์ฟอร์มโดดเด่นมากโดยยิงไป 10 ประตูและทำ 5 แอสซิสต์ ซึ่งความจริงเขาน่าจะมีสถิติที่ดีกว่านี้ด้วยซ้ำถ้าไม่เจออาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอด

    ศูนย์หน้าเวสต์แฮมสานต่อผลงานที่ดีมาถึงฤดูกาลนี้โดย 3 นัดที่ผ่านมาเขาระเบิดฟอร์มสุดยอดด้วยการยิง 4 ประตูพร้อมขยับขึ้นนำเป็นดาวซัลโวอยู่ในขณะนี้ (ยิงได้ทั้ง 3 นัดหลังสุด) นอกจากนี้ อันโตนิโอ ยังทำ 3 แอสซิสต์ด้วยซึ่งเป็นรองแค่ ปอล ป็อกบา เท่านั้น (5 แอสซิสต์) เขาเป็นส่วนสำคัญช่วยให้ “ขุนค้อน” รั้งอันดับรองจ่าฝูงและสัปดาห์พวกเขามีคิวบุกเยือนถิ่น เซาธ์แฮมป์ตัน รอดูกันว่าเขาจะทำประตู 4 นัดติดได้หรือไม่?

1.คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (แมนฯ ยูไนเต็ด)

    พรีเมียร์ลีกสัปดาห์นี้คงไม่มีสตาร์คนไหนน่าจับตามองมากไปกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ผู้ซึ่งกลับมาฟาดแข้งในลีกผู้ดีอีกครั้ง เกมกับ นิวคาสเซิ่ล วันเสาร์นี้ทุกสายตาคงจับจ้องไปที่ “ซีอาร์7” ไม่ว่าเขาจะออกสตาร์ทตัวจริงหรือตัวสำรอง

    โรนัลโด้ เคยค้าแข้งที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด 6 ฤดูกาล โดยยิง 118 ประตูพร้อมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัยและแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2007-08 บัลลงดอร์สมัยแรกของเขา (2008) ก็มาจากสีเสื้อปีศาจแดงด้วย 

    กัปตันทีมชาติโปรตุเกสประกาศกร้าวแล้วว่าไม่ได้กลับมาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เพื่อพักผ่อนแต่มาเพื่อคว้าแชมป์ คาดว่าเขาจะมีส่วนร่วมในเกมกับ “สาลิกาดง” แน่นอนซึ่งเขามีสถิติที่ยอดเยี่ยมมากในการเจอกับ นิวคาสเซิ่ล โดยยิง 6 ประตูและ 5 แอสซิสต์ รอดูกันว่าเขาจะสร้างความหัศจรรย์ได้ในวันเสาร์นี้เลยหรือไม่?

“Zvo”

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.