Football Sponsored
Categories: ฟีฟา

ใครจะแม่น 20 กูรูดัง BBC ร่วมฟันธงทีมแชมป์ “พรีเมียร์ลีก” ซีซั่น 2020-21 – ไทยรัฐ

Football Sponsored
Football Sponsored

ใครจะแม่นเดี๋ยวได้รู้กันเมื่อ 20 กูรูลูกหนังชื่อดังแห่งค่าย “บีบีซี สปอร์ต” ร่วมฟันธงทีมที่จะคว้าแชมป์ “พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” ซีซั่น 2021-22

วันที่ 13 ส.ค. 64 ความเคลื่อนไหวหลังจากที่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สมรภูมิลูกหนังอันดับหนึ่งของโลกประจำฤดูกาล 2020-21 จะได้ฤกษ์เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นในค่ำคืนนี้ โดยที่ทาง บีบีซี สปอร์ต (BBC Sport) สื่อลูกหนังชื่อดังได้ให้กูรูลูกหนังทั้ง 20 คนทำนายทีมที่จะได้แชมป์ซึ่งผลปรากฏว่ามีแค่ 2 ทีมเท่านั้นที่ถูกมองว่าจะคว้าแชมป์นั่นคือ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การนำทีม เป๊ป กวาร์ดิโอลา เทรนเนอร์ชาวสเปน และ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ของทาง โธมัส ทูเคิล นายใหญ่ชาวเยอรมนี มีโอกาสที่คว้าแชมป์ในบั้นปลาย

ขณะที่ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มี โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ เทรนเนอร์ชาวนอร์เวย์ ซึ่งมีการเสริมทัพได้อย่างน่าสนใจทั้ง จาดอน ซานโช ที่ย้ายมาจาก “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัว 73 ล้านปอนด์ และ ราฟาเอล วาราน ค่าตัว 43 ล้านปอนด์ ถูกมองว่ายังไม่ดีพอถึงแชมป์ เช่นเดียว “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์เมื่อ 2 ซีซั่นก่อนของทาง เยอร์เกน คลอปป์ กุนซือเยอรมนี ไม่ได้เสริมทัพหวือหวาและที่สำคัญตัวหลักหลายคนดูเหมือนจะเลยจุดพีกไปแล้ว

ส่วน “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล จากการบังคับการของ มิเกล อาร์เตตา ผู้จัดการทีมชาวสเปน ถูกมองว่าจะไม่ติด 1 ใน 4 ด้วยซ้ำไป ตลอดจน “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ของกุนซือคนใหม่อย่าง นูโน เอสปิริโต ซานโต ชาวโปรตุเกส ก็ถูกมองในลักษณะเดียวกัน

เปิดโผ 20 กูรูดัง BBC Sport ทำนายทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก 2020-21

รายชื่อกูรูลูกหนัง    อันดับ 1 อันดับ 2 อันดับ 3 อันดับ 4

1.) อลัน เชียเรอร์ : เชลซี / แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / ลิเวอร์พูล

2.) ฟารา วิลเลียมส์ : เชลซี / แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / ลิเวอร์พูล

3.) ซู สมิธ : เชลซี / แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / ลิเวอร์พูล

4.) คริส ซัตตัน : เชลซี / แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / ลิเวอร์พูล / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

5.) ราเชล บราวน์-ฟินนิส : เชลซี / แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / ลิเวอร์พูล / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

6.) แมทธิว อัพสัน : เชลซี / แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / ลิเวอร์พูล / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

7.) โรเบิร์ต กรีน : เชลซี / ลิเวอร์พูล / แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

8.) มาร์ติน คีโอว์น : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / เชลซี / ลิเวอร์พูล / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

9.) ไมกาห์ ริชาร์ดส์ : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / เชลซี / ลิเวอร์พูล / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

10.) สเตเฟน วอร์น็อค : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / เชลซี / ลิเวอร์พูล / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

11.) แดนนี เมอร์ฟีย์ : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / ลิเวอร์พูล / เชลซี / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

12.) มาร์ค ลอว์เรนสัน : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / ลิเวอร์พูล / เชลซี / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

13.) แอชลีย์ วิลเลียมส์ : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / เชลซี / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / ลิเวอร์พูล

14.) คลินตัน มอร์ริสัน : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / เชลซี / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / ลิเวอร์พูล

15.) ไมเคิล บราวน์ : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / เชลซี / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / ลิเวอร์พูล

16.) แพท เนวิน : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / เชลซี / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / ลิเวอร์พูล

17.) เลออน ออสแมน : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / เชลซี / แมนฯ ยูไนเต็ด / ลิเวอร์พูล

18.) เนดุม โอนูโอฮา : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / ลิเวอร์พูล / เชลซี

19.) ลินด์เซย์ จอห์นสัน : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / เชลซี / ลิเวอร์พูล

20.) เจอร์เมน เบ็คฟอร์ด : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / เชลซี / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / เลสเตอร์ ซิตี้

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.